Social Icons

    

Pages

7.31.2555

“ครั่ง” สีจากแมลงที่มีประโยชน์ต่องานพิมพ์



หลังจากผมได้ทิ้งท้ายกับเรื่องราวความน่าสนใจของหยกตราประทับที่เมื่อสมัยก่อนนิยมใช้กันเพื่อแสดงตัวตน ใช้เพื่องานราชการสำคัญและในบางทีก็เพื่อเป็นการแสดงถึงฐานะทางสังคมในสมัยก่อน และผมก็ได้ทิ้งท้ายไว้กับเรื่องราวของสีที่ใช้กันในสมัยก่อน อย่างที่เรารู้ดีกันอยู่ว่าในสมัยก่อนคงไม่มีเทคโนโลยีมากมายอะไรนัก โดยส่วนใหญ่สิ่งที่คนสมัยก่อนนำมาใช้ก็จะเป็นการประยุกต์อะไรต่อมิอะไรจากธรรมชาติมาทั้งนั้น ซึ่งตรงนี้ผมเป็นหนึ่งคนที่ชื่นชอบและตื่นตาตื่นใจและบางครั้งก็มีข้อสงสัยว่า คนในยุดโบราณเค้าได้คิดที่จะประยุกต์คิดค้นอะไรแบบนี้ได้อย่างไร นี้ต้องบอกว่าเป็นเรื่องที่ผมสนใจเป็นอย่างมากเลยทีเดียว  ก่อนที่เราจะไปว่ากันในเรื่องที่ผมได้ตั้งหัวข้อไว้ว่า “ครั่ง” สีจากแมลงที่มีประโยชน์ต่อ งานพิมพ์ ผมต้องขอแนะนำก่อนว่าเจ้าตัว “ครั่ง” ที่ผมพูดถึงนี้มันมีลักษณะเช่นไร?
พิมพ์สกรีน

  ตัวนี้คือตัว “ครั่ง” ที่ผมกำลังจะพูดถึง ตัวครั่งตัวนี้เป็นพระเอกของเรื่องของเราในวันนี้ แมลงครั่งตัวนี้หล่ะที่ผลิตสีให้กับคนโบราณได้ใช้กัน สีที่แมลงครั่งผลิตมาได้คือสีแดง  และผลผลิตของครั่งนี้ได้ให้ประโยชน์กับมนุษย์มาแล้ว ประมาณ 4,000 ปี แมลงครั่งจะไปเกาะอยู่บนต้นไม้และดูดเอาน้ำหล่อเลี้ยงของต้นไม้ ซึ่งถ้ามองแล้วครั่งก็คือศัตรูพืชชนิดหนึ่ง แต่ศัตรูพืชตัวนี้ให้ประโยชน์มากมายหลายประการ มนุษย์เราเลยทำการเลี้ยงอย่างเป็นจริงเป็นจัง แมลงครั่งชอบเกาะอยู่บนต้นไม้หลายหลายชนิด เช่น ต้นตะกร้อ ทองกวาว สะแก จามจุรี เป็นต้น ผลผลิตจากครั่งเป็นประโยชน์ต่ออุตสหกรรมหลายแขนง เช่น
พิมพ์แพด
  ผลผลิตจากยางครั่งสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างมากมาย เช่นในคนอินเดียสมัยก่อนใช้สีแดงจากครั่งเพื่อการแพทย์ในการรักษาโรคโลหิตจาง เพราะเชื่อว่าสามารถเพิ่มโลหิตได้ ส่วนในจีนสมัยก่อนใช้สีแดงจากครั่งในการย้อมผ้าไหมและหนังสัตว์ ซึ่งตรงนี้ปรากฎหลักฐานว่ามีการใช้ครั่งใน การพิมพ์ ด้วยในสมัยก่อนมีการสกัดเอาสีที่ได้จากครั่งมาเป็นสีหมึกในการพิมพ์ ซึ่งในสมัยนี้ครั่งที่ได้มีการนำไปใช้เป็นสีกันน้ำ และมีการนำยางครั่งไปทำเป็นเชลแลค ซึ่งในปัจจุบันครั่งมีประโยชน์ในอุตสาหกรรมดังนี้
อุตสาหกรรมยา : ได้มีการนำเชลแลคมาเคลือบยาเม็ดกันชื้นและเป็นตัวยาที่ทำปฏิกริยากับกระเพาะนั้นเอง
อุตสาหกรรมยาง  : ทำรองเท้า ที่เคลือบผิวพื้นไม้ เบาะอะไหล่รถยนต์ นอกจากสิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับเชลแลคที่ได้
                        จากครั่ง คือได้นำเอาไปเคลือบผิวผลไม้กันเหี่ยว และมาเคลือบลูกกวาด ผลิตน้ำยาฟิล์มถ่ายรูป
อุตสาหกรรมหมึกพิมพ์ : นำเอาเชลแลคมาเพื่อทำหมึกพิมพ์เขียนชนิดกันน้ำ ตอนหลังมีการผลิตหมึก พิมพ์
                                แห้งเร็วกันน้ำได้ ใช้ทำการพิมพ์ด้วยเครื่องจักรความเร็วสูง
นี่เป็นส่วนนึงของอุตสาหกรรมที่ใช้ครั่งเป็นส่วนประกอบ ซึ่งประเทศไทยองเราเป็นหนึ่งในประเทศที่ส่งออกครั่งมี่ใหญ่ติด 1 ใน 3 ของโลกเลยที่เดียว 3 ประเทศที่ว่าก็คือ ไทย จีน อินเดีย
ประเทศไทยเหมาะกับการปลูกครั่งเป็นอย่างมากเพราะมีสภาพที่เหมาะสม ในประเทศไทยสามารถเก็บเกี่ยวครั่งได้ 1-2 ครั้งต่อปี ซึ่งในการส่งออกไปขายต่างประเทศนิยมที่จะทำเป็นครั่งเม็ด
ซึ่งตรงนี้ก็ถือได้ว่าเป็นการส่งเสริมอุตสาหกรรมในชนบทเป็นอย่างมาก เพราะชาวบ้านได้ใช้เวลาว่างในการปลูกข้าวในการปลูกครั่งและต้นไม้ที่ใช้ในการปลูกก็มากมายดังเช่นที่ผมได้กล่าวไว้ข้างต้น
Shellac

Shellac


เห็นหรือเปลาครับว่าเพียงแค่คุณสงสัยกับเรื่งเพียงเรื่งเดียวก็สามารถทำให้คุณนั้นมีความรู้เพิ่มเติมได้อีกหลายเรื่อง แล้วเรื่องราวเหล่าั้นก็ล้วนแล้วแต่มีประโยชน้เอาไว้ประดับความรู้ของเรา

เรื่องราวที่เกี่ยวกับเรื่องของการพิมพ์สกรีน พิมพ์แพด งานพิมพ์ชนิดต่างๆ ยังมีให้ได้ศึกษาค้นคว้าอีกเยอะ

ติดตามกันได้ที่นะครับ


( ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพที่ใช้ในการประกอบบทความจาก Google, th.wikipedia.org,สำนักงานพัฒนาคุณภาพสินค้าการเกษตร )

7.28.2555

อยากจะคุยเรื่องงานพิมพ์

 

  ก่อนที่จะเขียนอะไรเป็นเรื่องเป็นราว ต้องขอบอกก่อนเลยว่ายินดีที่ได้รู้จักกับทุกท่านที่ได้เข้ามาเยื่อมเยือนบล็อกของเรา และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเนื้อหาของบล็อกนี้จะเป็นทั้งคลังความรู้และความบันเทิงให้กับทุกท่านได้บ้าง ที่บอกว่าบันเทิงนั้นก็เพราะว่า การที่เราจะบรรยายหรืออธิบายในสิ่งที่คนอื่นอาจจะไม่เข้าใจ การปรุงแต่งให้เรื่องราวนั้นสอดแทรกความบันเทิงและปรับปรุงให้เข้าใจง่าย มันจะเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะทำให้เกิดความเข้าใจในเรื่องนั้นๆได้มากขึ้น  เรื่องของ งานพิมพ์ ต่างๆต้องขอบอกได้เลยว่าเป็นเรื่องที่ถ้าจะให้เล่าตั้งแต่แรกเราต้องย้อนเวลาหาอดีตไป เกือบ 3,000 ปีเลยก็ว่าได้ เพราะวิวัฒาการของการพิมพ์นั้นมีมาเนิ่นนานมาก แต่วิธีการและอุปกรณ์ที่ใช้นั้นแตกต่างกันไปตามแต่ละยุุคสมัย  มาถึงตรงนี้แล้วหลายๆคนบอกว่า “ ออกดีกว่า! เครียด ”
อย่าเพิ่งนะอยู่กันก่อน เพราะเราบอกแล้วว่าเราจะรวมความบันเทิงไว้ให้ได้อ่านด้วย อ่านไปเรื่อยๆ ได้ความรู้ไปด้วย
พิมพ์ลาย
    คุณรู้หรือเปล่าว่าทำไมผมถึงอยากที่จะเริ่มต้นเขียนบล็อกนี้ ?
    ไม่ต้องคาดเดากันให้เหนื่อย..เพราะคำตอบมันคือ ผมเป็นหนึ่งคนที่อยู่ใน   สายงานพิมพ์นี้ แต่คุณรู้หรือเปล่าว่าสายงานนี้เป็นสายงานที่ถ้าแตกกิ่งก้านสาขาออกไปเหมือนต้นไม้ต้องบอกได้เลยว่าต้นไม้นี้เป็นต้นไม้ที่ใหญ่มากๆเลยทีเดียว แต่ก่อนผมก็แค่ศึกษาเรื่องของการพิมพ์ตามประเภทที่ผมถนัด ต้องบอกได้เลยว่าถ้าเป็นสายงานด้านการ พิมพ์แพด นี้เป็นอะไรที่เข้าทางก็ว่าได้  แต่ว่า? ( ทำไมถึงมีแต่ ) เราอย่าหยุดค้นคว้าและอย่าหยุดที่จะพัฒนาตัวเอง เพราะว่าพอยิ่งเราศึกษาเราจะได้ค้นพบอะไรที่เราไม่รู้อีกเยอะ และนี้หล่ะที่เป็นต้นกำเนิดของการอยากจะเขียนเรื่องของการพิมพ์ เพราะว่าเมื่อผมได้ลองค้นคว้า คุณเชื่อหรือเปล่าว่า มันมากมายก่ายกองเลยก็ว่าได้ อะไรต่อมิอะไรเยอะแยะไปหมด แต่ทุกอย่างเป็นเรื่องที่น่านำมาเล่าเพื่อเป็นความรู้จริงๆ 
เมื่อประมาณสองเดือนที่แล้วผมได้มีโอกาสไปเกี่ยวข้องแล้วข้องแวะเกี่ยวกับ “หยก” พอดีว่ามีเพื่อนที่เขาชอบเรื่องนี้นำหยกมาให้ผมดู จริงๆแล้วส่วนตัวเป็นคนที่ไม่ค่อยนิยมที่จะใส่หยกเท่าไหร่นัก นอกเสียจากว่ามีช่วงที่ต้องเอาอะไรมาเสริมเพิ่มพลังชีวิตถึงจะได้ใส่ ซึ่งถ้านึกดีๆแล้วในชีวิตมีเพียง 2 ครั้งเท่านั้นที่ได้ใส่หยกติดตัว  เรื่องราวไม่มีอะไรมากถ้าเพื่อนผมคนนี้ไม่พูดคำนี้ขึ้นมา
“ ถ้ารวยจะเอาหยกไปทำเป็นตราประทับ ”
ในหัวของผมคิดถึงภาพของฮ่องเต้นั่งบนบังลังก์แล้วถือหยกตราประทับประจำราชวงศ์เพื่อที่จะเอาหยกนั้นจุ่มลงไปที่หมึกแล้วประทับตราหยกนั้นลงบนตราสารอะไรก็ว่ากันไป  มันเลยทำให้ผมคิดว่าจริงๆแล้ว ประเทศจีนน่าจะรู้จักการพิมพ์สกรีน มานานมากแล้วจริงๆ เท่านั้นหล่ะครับคนอยากจะรู้ไปซะทุกเรื่องอย่างผมเลยอยากจะหาข้อมูลเรื่องนี้ขึ้นมาเลยทีเดียว                                                     
imgres  
   นี่คือตราประทับหยกที่ทำให้คนอย่างผมขนลุกเลยทีเดียว
  ตราประทับหยกของจักรพรรดิ์เฉียนหลงประมูลได้
  500 ล้านเหรียญไต้หวัน  ( ข้อมูลจาก http://thai.cri.cn )

จากข้อมูลที่ผมได้อ่านมา หยกตราประทับ มีเอาไว้เพื่อเป็นการแสดงตัวตนว่าใครเป็นใครมาจากตระกูลใด แต่ว่าหยกตราประทับไม่ได้มีใช้ทั่วไป แต่จะมีไว้สำหรับคนที่มีฐานะเท่านั้น เพราะบางสมัยตราประทับก็ไม่ได้ทำมาจากหยก แต่ทำมาจากทองก็มี และการใช้หยกตราประทับนั้นก็เพื่อที่เอาไว้เพื่อที่จะประทับไว้ในตราสารที่สำคัญและแต่ละยุคสมัยก็มีวิวัฒนาการการใช้ที่แตกต่างกัน ซึ่งตัวผมเองก็แอบคิดนะว่า หยกตราประทับน่าจะเป็นรากเง้าของตรายางของพวกเราในสมัยนี้ที่เอาไว้ใช้กันอย่างทั่วไป
สมัยนี้เราก็จะใช้แท่นหมึกที่ทำมาจากสีสังเคราะห์มาเป็นสีในการพิมพ์ตรายางลงไป แต่คุณรู้หรือเปล่าว่าในสมัยนั้นพวกเขาใช้อะไรเป็นหมึกเพื่อพิมพ์ตราสารกัน?
แน่นอนเมื่อถึงท้ายแบบนี้แปลว่าต้องมาติดตามกันว่าคำตอบคืออะไร ?
ติดตามกันได้ที่นี่ แล้วคุณจะรู้ว่าเรื่องที่เกี่ยวกับงานพิมพ์มันเยอะแยะมากมายน่าค้นหาจริงๆ

7.27.2555

Repost test

 ถ้ามีคนถามว่า "คุณชอบสีอะไร" ทุกๆคนก็ต่างมีคำตอบในใจกันอยู่แล้วว่าสีอะไรที่เราโปรดปรานมากที่สุด แล้วคุยเคยถามตัวเองหรือเปล่าว่า
 "แล้วทำไมเราถึงชอบสีนั้นหล่ะ?"

 คำถามนี่ถ้าคุณคิดดีๆคุณจะรู้ว่าการที่คุณชื่นชอบสีสีนึงนั้นไม่ได้เกิดเพราะความบังเอิญ แต่มันเกิดจากความรู้สึกที่เกี่ยวโยงกันกับสีที่คุณชอบนั้น อย่างเช่นผู้หญิงบางคนชอบสีชมพูเพราะว่าสีชมพูทำให้ดูเป็นสาวอ่อนหวาน หรือผู้หญิงบางคนที่ชื่นชอบในสีดำเพราะมันทำให้ดูเซ็กซี่และน่าค้นหา ซึ่งตรงนี้อาจจะประเมินได้ในเบื้องต้นว่า การที่คนเราชอบสีใดสีนึงนั้นเป็นเพราะสีๆนั้นให้ความรู้สึกอย่างไรกับตัวเรา

ซึ่งจะเป็นเรื่องไม่แปลกเลยว่าสีสามารถเป็นตัวแทนหรือบ่งบอกความเป็นตัวตนของคนๆนั้น สิ่งๆนั้น เลยก็ว่าได้ อิทธิพลของสีไม่เพียงแต่จะเป็นตัวบ่งบอกตัวตนและความชื่นชอบของเราเท่านั้น บางครั้งสีเป็นเหมือนตัวบ่งบอกรสนิยมเลยก็ว่าได้ ในเรื่องของตรงนี้ถ้าได้ถามหรือได้พูดคุยกับนักออกแบบ,สถาปนิก,ดีไซเนอร์ คุณจะรู้สึกได้ทันทีเลยว่าเรื่องของสีนี่เป็นเรื่องใหญ่มากเลยที่เดียว บางครั้งถึงขนาดต้องปวดหัวเพียงเพราะคำๆเดียวว่า "สี"

ถ้าพูดถึงสีสามารถบ่งบอกรสนิยมต้องเรื่องนี้เลยที่คิดออก " ผิวสีน้ำผึ้ง"

คนไทยเรามักจะนิยมและชื่นชอบคนผิวขาว เพราะมีความเชื่อที่ว่า ดูดีมีฐานะ มีสง่าราศี และ แต่คนต่างชาติกลับชื่นชอบผิวสีน้ำผึ้ง เพราะมีความเชื่อว่า ชาวต่างชาติที่มีฐานะมักจะชอบไปอาบแดดเพื่อให้ผิวนั้นมีสีเป็นสีน้ำตาลหรือสีน้ำผึ้ง เห็นมั้ยครับว่าอิทธิผลของสีมันมีมากมายเลยที่เดียว ในบางครั้งสามารถชี้วัดฐานะชาติตระกูลกันได้ด้วย

ถ้าในเรื่องของการพิมพ์ ต้องบอกเลยว่าสีเป็นส่วนสำคัญอย่างมาก แล้วถ้ายิ่งเป็นงานที่ลูกค้าต้องการให้ออกแบบงานให้ด้วยแล้วละก็ ต้องบอกได้เลยครับว่า ต้องทำการบ้านกันหนักเลยที่เดียว เพราะลูกค้าต่างค้องการให้ผลิตภัณฑ์หรือผลงานของตัวเองออกมาดูสวยและมีสไตล์ในแบบที่ตัวเองต้องการ แต่ในบ้างครั้งสีที่ลูกค้าต้องการกลับกลายเป็นไม่เข้ากับงาน เกิดปัญหาแบบนี้จะต้องทำอย่างไรกันดี?

เราอาจจะแนะนำหรืออธิบายถึงข้อดีและข้อเสียของสีที่ลูกค้าต้องการ และแสดงความคิดเห็นให้ลูกค้าได้นำไปเป็นการบ้านดูกับคำถามที่ว่า
" สีของงานที่คุณเห็นมันทำให้คุณรู้สึกอย่างไร"

บ้างครั้งที่เราตัดสินใจไม่ได้การให้ลูกค้าลองถามความรู้สึกของตัวเอง นั้นอาจจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุดก็ได้ครับ จริงๆไม่ได้อยากแนะนำอะไรมากเพราะรู้ว่าทุกท่านนั้นน่าจะเป็นผู้เชี่ยวชาญในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้ากันอยู่แล้ว ก็ถือซะว่าเป็นเกร็ดเล็กๆน้อยๆที่แนะนำให้แก่กันและกันนะครับพอมาถึงตรงนี้เราคงจะพอสรุปได้อย่างคราวๆว่า สีนั้นมีผลต่อความรู้สึกของเรามากเลยที่เดียว ลองมาคิดกันเล่นๆนะครับว่า
" ถ้าวันนึงคุณรู้สึกปวดหัว แล้วถ้าคุณเงยหน้าขึ้นมาเห็นภาพ 2 ภาพทีเหมือนกันแต่สีต่างกันแบบนี้..


คุณคิดว่าภาพไหนมันจะยิ่งทำให้คุณปวดหัวเพิ่มขึ้นไปอีก??
 

Interesting Blog