Social Icons

    

Pages

9.04.2555

ผู้ให้บริการงานพิมพ์สกรีนอยากคุยเรื่องโลโก้


เราได้คุยเรื่องของโลโก้มาสองตอนแล้วนะครับ แล้วผมคาดว่าคงจะมีภาคต่ออีกค่อนข้างหลายภาค เพราะผมขอบอกได้เลยว่าเรื่องราวของโลโก้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการจัดการ งานพิมพ์ การออกแบบโลดก้ การสื่อความหมาย ล้วนแล้วแต่เป็นศาสตร์และศิลป์ที่เราๆท่าน น่าจะเก็บความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ศึกษา เพราะเรื่องของโลโก้นั้นเป็นเรื่องที่สำคัญมากเลยที่เดียว เหมือนเป็นตัวแทนของคุณหรือองค์กรบริษัทของคุณเลยที่เดียว สามารถติตามอ่านบทความที่ผมได้เขียนไว้กี่ยวกับเรื่องของโลโก้ก่อนหน้านี้ การพิมพ์ลายโลโก้แบบไทยๆ และ คุณลักษณะของโลโก้ที่ดีต่อการพิมพ์สกรีน

โลโก้ที่ดีต้องมีความยืดหยุ่นสูงและสามารถเปลี่ยแปลงได้ตลอดเวลา และ ต้องสื่อความหมายขององค์กรนั้นๆได้ดี

วันนี้ผมจะขอพูถึงในเรื่องของประเด็นที่ว่าโลโก้นั้นๆ ต้องสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาและสามารถสื่อความหมายออกมาได้ชัดเจน โลโก้ที่คนไทยทุกคนต้องรู้สึกภาคภูมิใจและรู้สึกเหมือนเป็นโลโก้ที่เผยแพร่ความเป็นคนไทยได้ดี ผมว่าหนึ่งในนั้นคือโลโก้ของ สายการบินไทย และนี้คือหนึ่งในความภาคภูมิใจส่วนตัวของผมคือ ผมได้มีโอกาสใน การพิมพ์ลาย โลโก้ของการบินไทยลงในบรรจุภัณฑ์ ภาคภูมิใจมากครับ ว่าแล้วเรามาพูดคุยกันกับเรื่องของโลโก้ของการบินไทยกันต่อ ขอเริ่มต้นด้วยประวัติของโลโก็การบินไทยที่ผมได้หาข้อมูลมา ต้องขอขอบคุณข้อมูลจาก www.thaiairways.co.th และ www.bladereview.com  ใครที่อยากอ่านข้อมูลแบบฉบับเต็มสามารถเข้าไปอ่านกันได้เลยครับ  แต่ถ้าอยากอ่านในแบบฉบับย่อก็อ่านกันที่นี่ต่อได้เลยครับ

โลโก้ของสายการบินไทยของเรานั้นมี 3 ยุค โดยยุคแรกนั้นได้ใช้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2503-2518

ในยุคแรกนี้โลโก้ใช้ที่เรียกกันว่า เป็นตัวละครรำ ( The Dancing Man )

พิมพ์แพด
 
โลโก้นี้เป็นโลโก้ที่ใช้เป้นโลโก้แรกของการบินไทย ใช้จนถึงปี พ.ศ. 2518 จึงมีการพิจารณากันว่าสมควรที่จะมีการเปลี่ยแปลงโลโก้ของสายการบินใหม่ เพราะโลโก้นี้มีหลายคนนั้นคอยวิพากวิจารณ์อยู่พอสมควร เมื่อคณะกรรมการบริษัทในขณะนั้นรับเรื่องแล้วพิจารณาแล้วว่าสมควรแกการที่จะเปลี่ยแปลงโลโก้ The Dancing Man ก็ต้องปลดระวางจากน่านฟ้านับแต่นั้น


โลโก้ในยุคที่ 2 ซึ่งมีการขยายการให้บริการไปสู่ในส่วนภูมิภาคเป็นครั้งแรก ในปี พ.ศ.2503-2548


พิมพ์สกรีนพลาสติก
เป็นโลโก้ที่มีลวดลายคล้ายกับดอกรัก ใบาสมา แต่ผู้ที่ออกแบบโลโก้นี่ไม่ใช่คนไทย แต่เป็นบริษัทต่างชาติ เป็นบริษัทโฆษณาที่มีผลงานที่ดี และอยู่ในระดับมาตราฐานโลก นั้นคือ บริษัท Landor Associates ทางบริษัทได้ส่งตัวแทนชื่อ Mr. Peter McDonald มาทำการสำรวจเมืองไทย เพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับศิลปะวัฒนธรรมประเพณีไทย เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการออกแบบโลโก้ขึ้นมา Peter ได้พูดเอาไว้ว่า “ เมืองไทยมีสิ่งที่จะให้เลือกเป็นสัญลักษณ์มากมาย ผิดกับบางประเทศใหม่ๆในแถบภูมิภาคนี้ที่ไม่รู้จะเอาอะไรมาเป็นวัญลักษณ์”
แบบของการบินไทยในตอนนั้นมีงานออกแบบมาให้ทางคณะกรรมการเลือกอยู่สิบกว่าแบบแต่ที่โดเด่นในตอนนั้นคือเป็นแบบของดอกบัวสีสดใส แต่ ณ ขณะนั้นมันขัดกันกับมสญาของการบินไทยที่ว่า เป็นบริการเอื้องหลวง ( Royal Orchid Service ) และอีกอย่างคนไทยใช้ดอกบัวในการบูชาพระการที่จะนำไปติดอยู่บนเครื่องบินก็อาจจะดูดี แต่ในบางทีที่โลโก้ต้องไปติดอยู่หน้าห้องน้ำของเครื่องบิน ก็อาจจะดูไม่ดีเท่าไหร่ ข้อสังเกตตรงนี้ทำให้โลโก้ที่ออกแบบมาเป็นดอกบัวถูกตัดทิ้งไปต้องออกแบบใหม่ และเลยกลายมาเป็น ตรา “เจ้าจำปี” ที่มีสีทอง ชมพู ม่วงสด ซึ่งตรงนี้ผู้ออกแบบได้แรงบันดาลใจจากใบเสมาซึ่งสามารถเห็นได้ทั่งไปในประเทศไทย ความหมายของโลโก้สื่ออกมาให้เห็นถึงความเร็วและการพุ่งทะยานขึ้นตรงไปที่น่านฟ้า เช่น จรวดหรือยานอวกาศ
เรื่องของสีมีความหมายว่า สีทองคือสีของวัดวาอารามในประเทศไทย
                                  สีม่วงคือสีของกล้วยไม้ซึ่งเป็นสีของการบินไทย
                                  สีชมพูคือสีของผ้าไหมและดอกบัว

ยุคที่ 3 ของสายการบินไทยที่ใช้ในปัจจุบันนี้ พ.ศ. 2548-ปัจจุบัน

พิมพ์สกรีน
นี้เป็นโลโก้ในยุคปัจจุบันที่ใช้กันอยู่ โดยองค์รวมนั้นยังเป็นแแบบเดิม แต่ที่เปลี่ยนแปลงคือเรื่องของสีที่ใช้และตัวอักษร เนื่องจากปี พ.ศ. 2548 เป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงของการบินไทย จึงมีแนวคิดที่ว่าควรเปลี่ยนแปลงโลโก้ให้ดูมีชีวิตชีวาขึ้น จึงได้ทำการเพิ่มความสดและความเข้มของสีโลโก้แตยังคงใช้รูปแบบโลโก้ดังเดิม ตัวอักษรมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ให้ตัวอักษรมีขนาดเท่ากันทั้งหมด เพื่อสื่อให้เห็นถึงความมั่นคงของบริษัทและความแข็งแกร่งเช่นกัน
ซึ่งโลโก้ในยุคที่ 3 นี้เป็นโลโก้ที่ผมได้มีโอกาส พิมพ์สกรีนโลโก้ ลงบนบรรจุภัณฑ์ นับเป็นเกียรติของผมมากและเมื่อผมได้มาอื่นถึงประวัติแล้วยิ่งรู้สึกยินดีและดีใจเป็นอย่างมากที่ครั้งนึงได้มีโอกาสให้บริการกับสายการบินของคนไทย
ครั้งหน้าผมยังมีเรื่องราวที่น่าสนใจของโลโก้แบบไทยๆที่น่าค้นหามาให้ได้อ่านกัน ติดตามกันนะครับ

8.30.2555

การพิมพ์ลายโลโก้แบบไทยๆ


 กลับมากันอีกครั้งหลังจากที่ไปปฏิบัติภาระกิจหลายอย่างจนไม่มีเวลามาเขียนบล็อก แต่วันนี้ผมว่างพอที่จะมาเขียนเรื่องราวที่ผมและท่านผู้อ่านได้คุยค้างกันไว้เกี่ยวกับเรื่องของโลโก้ที่ดีควรเป็นอย่างไร อย่างที่ผมได้บอกนั้นแหละครับว่า เรื่องของโลโก้นั้นเป็นเรื่องที่น่าสนใจและน่าที่จะค้นคว้าหาความรู้มาประดับใส่ตัวเราเป็นอย่างมาก เพราะว่าในทุกวันนี้ไม่ว่าธุรกิจไหนๆก็ตจ้องมี ตราสัญลักษณ์หรือโลโก้ ของตัวเองด้วยกันทั้งนั้น ไม่ส่าจะเป็นองค์กรเล็กหรือใหญ่ หรือแม้แต่ในช่วงหลังๆมานี้ สิ่งที่ผมเริ่มที่จะเห็นมากขึ้นก็คือ หลายๆคนที่ผันตัวมาสร้างธุรกิจของตัวเองสร้างสินค้าในชื่อของตัวเอง ก็เริ่มที่จะมีการทำโลโก้เพื่อสร้างความเป็นเจ้าของสินค้านั้นๆ และก็จะมีการนำโลโก้นั้นไป พิมพ์สกรีน ลงบนสินค้าบ้าง หรือทำเป็นสติกเกอร์บ้างก็แล้วแต่ความสะดวกของแต่ละบุคคล ซึ่งตรงนี้ถ้าผมจะบอกว่าเรื่องของโลโก้นั้นไม่ใช่เรื่องที่ไกลตัวพวกเราสักเท่าไหร่ อย่างนี้การที่เราจะสะสมความรู้เกี่ยวกับเรื่องของโลโก้ที่ดีนั้นจึงเป็นเรื่องที่เราต้องให้ความสนใจ

อย่างที่ผมได้เขียนไว้ในคราวที่แล้วว่า การสร้างโลโก้ที่ดีนั้นควรจะต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง ถ้าผู้อ่านสนใจสามารถไปอ่านได้ที่ คุณลักษณะของโลโก้ที่ดีต่อการพิมพ์สกรีน

หลังจากที่ผลได้ค้นคว้าหาอ่านเรื่องราวของโลโก้นั้น ผมได้ไปเจอจุดสนใจเกี่ยวกับ โลโก้แบบไทยๆ ที่ไม่ว่าจะมองในมุมไหนก็ไม่ค่อยจะเข้ากับแนวทางของการออกแบบโลโก้สักเท่าไหร่ หลายคนที่อ่านมาจนถึงในส่วนนี่ก็คงเริ่มที่จะคิดภาพตามว่า โลโก้แบบไทยๆนี้จะมีลักษณะเช่นไร ไม่ต้องนึกอะไรมากครับนึกถึงตราสัญลักษณ์ประจำจังหวัดของคุณก็ได้ นั้นคือโลโก้แบบไทยๆที่ผมกำลังจะพูดถึง
พิมพ์สกรีน

โลโก้ที่ผมยกตัวอย่างมาเป็นส่วนหนึ่งของโลโก้ประจำจังหวัดที่บางคนอาจจะคุ้นเคยแต่บางคนอาจะไม่เคยเห็นเลยด้วยซ้ำ ซึ่งตรงนี่ผมในฐานะเป๋นผู้ให้บริการด้าน การพิมพ์สกรีน โลโก้เหล่านี้ล้วนเป็นโลโก้ที่มีรายละเอียดซับซ้อนเป็นอย่างมาก ที่ผมนำให้ดูนี่เป็นตัวอย่างภาพขาว-ดำ แต่ในโลโก้ที่ทางจังหวัดต่างๆใช้นั้นบางครั้งก็ใชเป็นโลโก้สี และนอกจากจะเป็นโลโก้ในส่วนของจังหวัดต่างๆแล้ว เทศบาล ตำบล ของจังหวัดนั้นก็มีโลโก้หรือตราสัญลักษณ์นั้นๆเช่นเดียวกัน
พิมพ์แพด
โลโก้แบบไทยๆนี้จะมีรายละอียดที่ค่อนข้างมาก ซับซ้อนไม่เข้ากับแนวทางที่ดีในการออกแบบโลโก้สักเท่าไหร่ แต่การออกแบบโลโก้ในลักษณ์เช่นนี้นั้น เป็นการออกแบบที่เน้นให้เห็นถึงความหมายและวัฒนธรรมของแต่ละจังหวัดหรือแต่ละองค์กรเป็นหลัก ถ้าเราสังเกตุดูจากโลโก้ของแต่ละจังหวัดที่ยกตัวอย่างมานี้ จะเห็นได้ว่าแต่ละจังหวัดนั้นๆจะได้นำเอาจุดเด่นของตนเองมาประกอบกับโลโก้ที่จัดทำขึ้น เช่นสถานที่ที่เป็นสัญลักษณ์ของจังหวัด เป็นต้น
นอกจากโลโก้หรือตราสัญลักษณ์ประจำจังหวัดต่างๆและ โลโก้ที่คนเราคุ้นเคยและอาจจะคุณตาได้ดีกว่านั้นคือโลโก้ของแต่ละองค์กรและหน่วยราชการของประเทศไทยซึ่งตรงนี้นั้นมีความคล้ายกันในเรื่องของการออกแบบ นั้นคือ เป็นการออกแบบมาเพื่อจุดประสงค์ที่จะสือเป็นความหมายทางการและอำนาจควบคุมต่างๆที่แต่ละองค์กรในมีบทบาท การออกแบบจึงมีลักษณะที่ซับซ้อน แต่มีนัยยะที่ชัดเจนในเรื่องของวัตถุประสงค์ที่อยากจะสื่ออกมา
พิมพ์สกรีนพลาสติก
ข้อหนึ่งของการออกแบบโลโก้ที่ดีที่จะเข้ากับการออกแบบโลโก้ของราชการนั้น ก็คือต้องสื่อความหมายออกมาว่าแต่ละองค์กร จังหวัด ส่วนราชการนั้นๆ ทำอะไร มีจุดเด่นตรงไหน ซึ่งตรงนี้อาจจะบอกได้ว่าแม้ การออกแบบนั้นจะไม่สดอคล้องกับแนวทางที่นิยมกัน แต่ว่าในเรื่องของการสื่อสารความเป็นตัวตนนั้นชัดเจน แม้ว่าอาจจะต้องมีการตีความหมายออกมา เพราะในโลโก้ต่างๆนั้นโดยเฉพาะในส่วนของราชการ จะมีการใช้ลายลักษณ์อักษร และ การใช้สรรพสัตว์ตามโบราณกาลเข้ามาเป็นองค์ประกอบ
แต่ในปัจจุบันมีองค์กรต่างๆที่มีการเปลี่ยนแปลงโลโก้เพื่อให้เข้ากับยุคสมัยมากขึ้น และเพื่อให้เอื้ออำนวยต่อการจัด พิมพ์ลาย โลโก้ต่างที่สะดวกขึ้น ซึ่งในครั้งหน้าผมจะนำเรื่องราวเหล่านี้มานำเสนอ ติดตามกันได้ที่นี่ครับ

8.21.2555

คุณลักษณะของโลโก้ที่ดีต่อการพิมพ์สกรีน

 

มาเขียนแบบติดๆ สำหรับเรื่องของโลโก้ ก้ออย่างที่ผมได้เล่าให้คุณผู้ฟังได้รู้เกี่ยวกับเรื่องราวประสบการณ์ของผมเกี่ยวกับเรื่องของงานได้มีโอกาสไปเกี่ยวข้องกับการออกแบบโลโก้ทั้งๆที่ตัวเองนั้นเป็นเพียงผู้ให้บริการงาน พิมพ์แพด เท่านั้น แต่ทุกอย่างก็ผ่านพ้นไปได้ด้วยดีตามผมได้เล่าไว้ (คงไม่ต้องเขียนขยายความนะครับไปอ่านเรื่องของผมได้ การพิมพ์สกรีนโลโก้ตราสินค้าบ่งบอกความเป็นตัวคุณ )

วันนี้ผมมีเรื่องของความสำคัญของการออกแบบโลโก้ของ ทำอย่างไรให้ออกมาดูดีและง่ายต่อการจัดพิมพ์ ซึ่งตรงนี้ในฐานะที่ผมเป็นคนในวงการงานพิมพ์ ต้องบอกได้เลยว่า เป็นเรื่องที่สำคัญมากๆในการออกแบบให้โลโก้ของคุญนั้นเอื้ออำนวยต่อการจัด พิมพ์งาน ไม่ว่าจะเป็นการนำโลโก้ที่ออกแบบนั้นไปพิมพ์นามบัตร พิมพ์หัวกระดาษ พิมพ์สินค้าส่งเสริมการขาย ฯลฯ

ซึ่งตรงนี้ไม่ใช่เพียงการออกแบบให้โลโก้นั้นออกมาสวยถูกใจอย่างเดียวเท่านั้น แต่ต้องคำนึงถึงการนำไปใช้ด้วย ด้วยความสำคัญเรื่องนี้ผมจึงได้นำความรู้เล็กๆน้อยๆมาฝากกันครับ

การออกแบบโลโก้นั้นเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างแบรนด์ของคุณและมีผลต่อการจดจำด้วย สิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงนั้นมีอยู่ดังนี้ครับ

- เน้นความเรียบง่ายเป็นสำคัญ  นั้นหมายถึงว่าการออกแบบโลโก้นั้นต้องไม่ทำให้ซ้ำซ้อนจนเกินไป แม้ว่าโลโก้นั้นจะเป็นส่วนหนึ่งของเอกลักษณ์ขององค์กรนั้นๆ แต่ไม่จำเป็นต้องเอารายละเอียดทั้งหมดของความเป็นองค์กรมาใส่ไว้ไนโลโก้ นำเพียงเอกลักษณ์ที่สำคัญที่เป็นจุดเด่นที่ต้องการสื่อสาร และออกแบบมาให้ดูเรียบง่ายที่สุด

- ดึงดูดความสนใจของผู้พบเห็น และควรที่จะจัดการออกแบบให้มีที่ว่างพอสมควร เพื่อให้ผู้พบเห็นสามารถที่จะค้นพบความหมายที่แฝงในโลโก้ การออกแบบที่ซ้ำซ้อนมากเกินไป จะทำให้ผู้พบเห็นนั้นรู้สึกไม่เข้าใจความหมายที่การออกแบบนั้นต้องการจะสือออกมา และจะทำให้ผู้ที่พบเห็นนั้นไม่สะดุดตากับโลโก้นั้นๆอีกด้วย

- นึกถึงความยั่งยืนของการใช้งานโลโก้นั้นด้วย การออกแบบโลโก้นั้น ต้องคำนึงถึงการใช้งานระยะยาวด้วย โลโก้ที่ดีนอกจากที่จะสวยงามแล้ว ต้องสามารถใช้งานได้แม้ว่าเวลาจะผ่านไปนานสักแค่ไหนก็ยังสร้างเอกลักษณ์ที่ดีต่อผู้พบเห็นทุกยุคสมัย ถ้าจะยกตัวอย่างขอแนะนำให้ดูที่โลโก้ของห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ ธนาคาร และแบรนด์ของสินค้าที่มีอายูุสินค้านานแล้ว ถ้าสังเกตุให้ดีโลโก้เหล่านั้นจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและสามารถใช้ได้ทุกยุคทุกสมัย บางครั้งโลโก้เหล่านั้นจะมีการเปลี่ยนโฉมไปบ้างตามสมัยแต่ก็ยังคงเอกลักษณ์โดยรวมเช่นเดิม

พิมพ์สกรีน

พิมพ์สกรีนพลาสติก

(เครดิตรูปภาพประกอบ : Google.co.th )

- การใช้แบบโลโก้ควรใช้แบบเวกเตอร์ (Vector) ลายเส้นนั้นจะสะอาดดูชัดเจน ใช้สีไม่มากเพราะโลโก้ที่ใช้สีมากๆนั้น อาจจะไม่ก่อให่เกิดเอกลักษณ์การจดจำของแบรนด์ และการออกแบบให้แบบเวกเตอร์นั้น จะมีการตัดกีนและความสมดุลย์อยู่ในตัวแล้ว แล้วจะเป็นดีต่อกาพ พิมพ์โลโก้ ด้วยเพราะสีจะคมชัดและออกมาสวยงาม

พิมพ์โลโก้

(เครดิตรูปภาพประกอบ : logotypes101.com,bazaardesigns.com)

- มีความยืดหยุ่นสูง พร้อมที่จะสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา เพราะบางครั้งสินค้าหรือองค์กรร้านค้ามีการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจหรือเปลี่ยนภาพลักษณ์หรือเปลี่ยนแปลงทางการตลาด การเปลี่ยนแปลงโลโก้จะถูกนำมาใช้บ่อยมาก การออกแบบที่ยืดหยุ่นได้พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงจึงสำคัญ

- โลโก้ที่ดีต้องเป็นที่จดจำได้ง่าย เพราะในบางครั้งผู้พบเห็นนั้นไม่สามารถเห็นโลโก้ของเราได้ในเวลานาน ใช้เวลาในการเห็นเพียงชั่วครู่ การออกแบบให้จดจำง่ายจึงเป็นอีกจุดที่สำคัญมาก เพราะจะทำให้ผู้พบเห็นสามารถจดจำโลโก้นั้นๆได้ในการพบเห็นเพียงชั่วแวบเดียว

- โลโก้หนึ่งสิ่งที่สื่อสารว่า “เราคือใคร” การออกแบบโลดก้ต้องออกแบบมาให้สอดคล้องกับภาพลักษณ์ของร้าค้าองค์กรที่ต้องการจะสื่อสาร เพื่อที่ผู้พบเห็นนั้นสามารถที่จะเดาความหมายหรือตีความหมาย รวมถึงทองภาพลักษณ์ของโลดก้ที่สือได้สอดคล้องกับที่ออกแบบไว้

- การเลือกสีของโลโก้นั้นสำคัญ ควรเลือกสีในเหมาะกับผลิตภัณฑ์หรืออาจรวมไปถึงเลือกให้เหมาะกับกลุ่มลูกค้าที่เราจะทำการตลาดหรือวางเป้าหมายไว้ เพราะสีที่ใช้ในโลโก้อาจจะเป็นสีแห่งแนวทางทางสังคมของร้านค้า กิจการองค์กรนั้นๆ

- การออกแบบโลโก้นั้นต้องออกแบบโดยให้เป็นตัวของตัวเองที่สุด ไม่ไปซ้ำซ้อนหรือเหมือนกับคนอื่น เพราะมันอาจจะก่อให้เกิดการเข้าใจผิดและไม่ทำให้ผู้พบเห็นนั้นจดจำโลโก้ของเราแต่กลับจะไปจำโลโก้ที่เราออกแบบมาคล้ายกันนั้นเอง (การออกแบบที่ใกล้เคียงนั้น บางครั้งส่งผลให้เราเกิดการจำในมุมที่เข้าใจผิด แต่คนที่ออกแบบต้องการหรือตั้งใจที่จะวางเอกลักษณ์อย่างนั้น ซึ่งตรงจุดนี้มีคนที่ทำ แต่ถ้าจะให้ดีควรจะหลีกเลี่ยงมากกว่าครับ)

- สุดท้ายการออกแบบโลโก้ที่ดีนั้น ก็เป็นไปอย่างที่ผมได้เขียนไว้คือ สามารถดัดแปลงโลโก้นั้นๆไปใช้ได้ในหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น หัวกระดาษ เว็บไซต์ นามบัตร ฯลฯ

และนี่คื่อสิ่งที่สำคัญในการออกแบบโลดก้ที่ทุกคนควรคำนึงถึงก่อนที่จะออกแบบโลโก้นั้นออกมา ติดตามกันต่อไปกับเรื่องของ โลโก้ มีอะไรมาเล่าอีกเยอะครับติดตามกันได้ที่นี่กับเรื่องดีๆของ งานพิมพ์ ครับ

8.20.2555

การพิมพ์สกรีนโลโก้ตราสินค้าบ่งบอกความเป็นตัวคุณ


วันเวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก คำๆนี้สามารถใช้ได้ในทุกยุคสมัยเลยจริงๆ ไม่นานเราก็เดินทางกันมาถึงจะปลายปีกันอีกแล้ว เดี่๋ยวอีกไม่นานเราคงจะได้สัมผัสกับบรยากาศของงานฉลองส่งท้ายปีกันอีกแล้ว จะว่าไปแล้วเวลาที่ผ่านไปเร็วแบบนี้ถ้าคุณได้ย้อนนึกถึงเรื่องราวต่างๆที่ผ่านมาก็คงจะมีความทรงจำต่างๆมากมายที่น่าจดจำใช่หรือไม่ครับ สำหรับผมคนที่ทำงานอยู่ในวงการงาน พิมพ์สกรีน บอกได้เลยว่าแต่ละปีที่ผ่านมาเป็นเหมือนการเก็บแต้มกับประสบการณ์ต่างๆที่ผ่านเข้ามา คุณรู้หรือไม่ว่าเวลากลางปีไปจนถึงเดือนกลางเดือนตุลาคมจะเป็นเวลาที่ต้องบอกได้เลยว่า เกือบทุกปีต้องมีเหตุการณ์ที่ผมขอเรียกเองว่า “เทศกาลพิมพ์ของแจก” ที่ผมเรียกแบบนี้ก็เพราะว่า เวลาในช่วงนี้ไม่ว่าห้างร้าน บริษัท หรือเจ้าของผลิตภัณฑ์ทั้งหลายก็มักจะเริ่มที่จะหาของทีขวัญเพื่อแจกให้กับเหล่าบรรดาลูกค้าของพวกเขาและการที่จะลือกหาของขวัญที่จะแจกนั้นก็เป็นสิ่งที่ต้องพิถีพิถันเป็นอย่างมาก และอีกส่วนหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน และในบางครั้งถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมากเลยก็ว่าได้ นั้นคือการบ่งบอกถึงชื่อเสียงเรียงนามของบริษัทหรือผู้ผลิตลงไปในของขวัญเหล่านั้น นั้นคือการพิมพ์โลโก้นั้นเอง
ทุกยุคทุุกสมัยโลโก้นั้นเป็นเหมือนกับสิ่งที่จะทำให้องค์กร ห้างร้านนั้นๆ ได้เป็นที่จดจำของคนที่พบเห็น สำหรับผมคำว่า “โลโก้” เหมือนกับสัญลักษณ์ที่บ่งบอกสไตล์ของกิจการนั้นๆว่าไปในทิศทางไหน ในส่วนตัวผมบอกได้เลยว่า โลโก้เป็นเหมือนเงาของกิจการเลยก็ว่าได้ ซึงตรงจุดนี้นั้นเองทำให้ผมนั้นอยากจะค้นคว้าเกี่ยวกับความเป็นมาเป็นไปของเรื่องโลโก้ แต่ก่อนที่ผมจะหาข้อมูคต่างๆที่จะมาเล่าให้ทุกคนนั้นได้ฟัง ผมเองก็มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับประสบการณ์ตรงของผมเกี่ยวกับการให้บริการพิมพ์โลโก้ที่ผมเคยได้เจอมาเล่าให้ทุกคนได้ฟัง เผื่อว่าเรื่องที่ผมเล่านี้ จะเป็นส่วนนึงหรือแนวคิดในการคิดจัดทำโลโก้ของห้างร้าน หรือองค์กรที่กำลังจะจัดทำขึ้น แต่เรื่องราวนี้ไม่ได้จะบอกว่านี่คือบรรทัดฐานนะครับแต่ผมอยากบอกเพราะมันคือส่วนหนึ่งของประสบการณ์มากกว่าครับ
พิมพ์สกรีน
ผมเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการด้านงานพิมพ์สกรีน หลายครั้งที่ผมได้เจอประสบการณ์เกี่ยวกับการต้องให้คำปรึกษาด้านงานออกแบบ เพราะลูกค้าบางคนนั้นมีไอเดียแต่ไม่มีแบบมาให้ผมพิมพ์ ผมก็ไม่ใช่ว่าจะเก่งเรื่องงานออกแบบสักเท่าไหร่ แต่เมื่อลูกค้าขอให้ช่วย ผมในฐานะผู้ให้บริการก็ต้องช่วยด้วยความยินดี พอดีลูกค้าเป็นผู้จัดจำหน่ายสบ่สมุนไพร แล้วต้องการ พิมพ์ลาย ลงบรรจุภัณฑ์ ระดมสมองกันอยู่ตั้งนานเกือบสัปดาห์ ในการออกแบบโลโก้ของลูกค้า แต่ผลปรากฎว่า ไม่ผ่านสักทีเพราะว่าลูกค้าเค้ายังไม่ประทับใจยังไม่ถูกใจเลยทีเดียว ครั้งสุดท้ายที่ผมปรึกษาลูกค้าผมบอกกับลูกค้าว่า ตัวผมเองอยากให้ลูกค้าได้สิ่งที่ดีที่สุด แล้วนี้เป็นสินค้าที่ลูกค้านั้นเลือกที่จะทำบรรจุภัณฑ์ที่ใช้วิธีการพิมพ์โลโก้ ไม่ได้ใช้สติกเกอร์ นั้นหมายความว่าลูกค้านั้นคาดหวังเกี่ยวกับภาพลักษณ์ของสินค้าที่มากขั้นกว่าเก่า ดังนั้นผมจึงขอเวลาลูกค้าและขอรายละเอียดที่ลึกกว่าเก่า รวมทั้งธีมของงานที่ลูกค้าอยากได้ หลังจากนั้นผมไปเริ่มหาข้อมูลในการออกแบบเพิ่มเติม รวมถึงการใช้สีและได้นำเอาเรื่องของการตีความเรื่องของสัญลักษณ์มาใช้เป็นข้อมูลด้วย เรียกว่าไม่ได้ทำเพราะอยากบริการลูกค้าอย่างเดียว แต่ด้วยความที่ผมอยากรู้ด้วย เรียกว่าทำไปแล้วไม่เครียดเหมือนเดิมแต่กลับสนุกยิ่งขึ้น สองวันผ่านไปผมได้นำแบบที่ผมได้จัดทำไว้เสนอเป็นไอเดียให้ลูกค้า สรุปว่าลูกค้าตกลงแล้วก็บอกผมว่า ทำไมเพิ่งคิดออก ลูกค้าลุ้นกับผมมาก คุณเชื่อหรือเปล่าว่าวันนั้น ผมรู้สึกเหมือนว่าผมไม่ได้เป็นผู้ให้บริการด้านงานพิมพ์ แต่กลับกลายเป็นผู้ออกแบบโลโก้เลย ก่อนหน้านี้ทั้งตัวผมและลูกค้า ไม่ได้ไปจับประเด็นของตัวสินค้าว่าเป็นประเภทไหน มุ่งเน้นแต่ในเรื่องของรูปแบบตัวอักษร กับสีที่ลูกค้าอยากจะได้ มันเลยทำให้แบบที่ออกมานั้นมันขาดองค์ประกอบที่เป็นจุดเด่นไป แบบโลโก้ที่ออกมานั้นทื่อๆ ไม่น่าสนใจ พอผมลองไปตีความของสินค้าใหม่อีกที และ เปลี่ยนสีที่ใช้เป็นสีที่เหมาะกับสินค้า ( อันนี้เป็นสิ่งที่ผมทำแล้วรู้สึกเสี่ยงจริงๆ เพราะไม่ใช่สีที่ลูกค้าชอบ ) แต่ว่าสีนี้เป็นสีที่เหมาะกับสินค้าของลูกค้ามากกว่า แล้วผมก็ได้เพิ่มความเป็นไทยไปด้วยการเพิ่มลายที่บ่งบอกความเป็นไทยและเป็นลายที่เมื่อ พิมพ์ลาย ลงในชิ้นงานแล้วดูโดดเด่นบ่งบอกถึงความเป็นสบู่สมุนไพรไทย แล้วพอดีลูกค้าได้เพิ่มข้อมูลที่ผมถามว่าลูกค้าชื่นชอบสไตล์แบบไหนและอยากให้สินค้าออกมาแล้วมีจุดเด่นเป็นยังไง ลูกค้าบอกผมว่าเป็นคนที่ชื่นชอบความเป็นไทย สินค้าที่ทำโดยส่วนใหญ่นั้นเป็นสมุนไพรไทย ผมเลยหยิบยกตรงนี้มาเป็นส่วนหนึ่งของไอเดีย สรุปว่าลูกค้านั้นถูกใจ แล้วตกลงพิมพ์โลโก้ลายที่ผมเป็นคนออกไอเดียในทันที

นั่งคิดโลโก้ 2อาทิตย์ แต่ พิมพ์โลโก้ แค่ 3 วัน สนุกจริงๆครับงานนี้

(ขอโทษด้วยที่ผมไม่สามารถนำตัวอย่างรูปมาลงได้ เดี๋ยวจะเป็นการละเมิดสิทธิ แต่เรื่องราวผมลงได้ครับเพราะไม่มีลิขสิทธฺ์)
ในคราวหน้าผมมีเรื่องราวเกี่ยวกับเรื่องของโลโก้มาฝากกันติดตามกันนะครับ

8.11.2555

สารฟอร์มาลดีไฮด์(Formaldehyde)สารอันตรายที่แอบแฝงในสีงานพิมพ์สกรีนพลาสติก


หลังจากที่เราได้พูดคุยกันมาในเรื่องของสารพิษต่างๆที่มีอยู่ในสีที่ใช้ใน งานพิมพ์ ทุกท่านคงได้อ่านและเริ่มเห็นอันตรายของสารพิษที่ประกอบอยู่ในสีเหล่านี้ แม้ว่าสารพิษเหล่านั้นอาจจะไม่ได้มีส่วนผสมที่มากนัก แต่ว่าเราในฐานะผู้บริโภค ถ้าสิ่งของสิ่งไหนที่เราควรเอาใจใส่ดูและเพราะเป็นสิ่งของที่เราจะต้องใช้อยู่ทุกวันและอาจจะต้องเกี่ยวกับการรับประทานหรือสูดดมสัมผัสเข้าไปนั้น เรายิ่งต้องดูส่วนประกอบให้แน่ชัดเพื่อความปลอดภัยของตัวเราเอง

สารพิษ 2 ชนิดที่ผมได้พูดถึงไปนั้นคือ สารตะกั่วและสารปรอทในวันนี้ผมจะขอนำความรู้เรื่องของ สารฟอร์มาลดีไฮด์ หรือถ้าจะให้คุ้นหูนั้นก็คือ สารฟอร์มาลีน หนึ่งในสารอันตรายที่จะมีผสมเข้าไปในสีที่ไม่ใช่ สี Non Toxic มาเล่าสู่กันฟังครับ

พิมพ์แพด
สารฟอร์มาลดีไฮด์ Formaldehyde เป็นสารอินทรีย์ที่จะระเหยเป็นไอ ส่งบบประสาท ทำให้ผู้ที่ได้รับไอระเหยของสารฟอร์มาลดีไฮด์ผลเสียต่อสุขภาพอย่างรุนแรง สารฟอร์มาลดีไฮด์จะทำให้ระคายเคืองต่อการหายใจส่วนบน เคืองดวงตา จมูก ลำคอ อาจจะก่อให้เกิดการติดขัดในการหายใจ ทำให้เกิดอาการน้ำมูกไหล น้ำตาไหล อีกทั้งยังส่งผลที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังด้วย ซึ่งจะเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ก่อให้เกิดโรคหอบหืด ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อระบบประสาททำให้ผู้ที่ได้รับสารพิษนี้เข้าไปนั้น เกิดอาการวิงเวียน อ่อนเพลีย สมาธิและความทรงจำอาจจะเกิดความบกพร่อง และอารมณ์จะเกิดการเปลี่ยนแปลง
ประโยชน์ของสารฟอร์มาลดีไฮด์นั้นถูกใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็น อุตสาหกรรมการแพทย์ เอาไว้ทำฆ่าเชื้อโรค เชื้อรา ทำความสะอาดห้องคนป่วย และนำไปเป็นส่วนผสมในการดองศพแช่ศพ
อุตสาหกรรมความงาม นำมาใช้ผสมในสีทาเล็บ ยาเคลือบเล็บ
อุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ พลาสติก สิ่งทอ ทำกาววิทยาศาสตร์ ทำสีทาบ้าน น้ำยาเคลือบเงาไม้ เฟอร์นิเจอร์ ฯลฯ
ด้วยประโยชน์เหล่านี้จึงทำให้สิ่งของที่เราใช้อยู่ในชีวิตประจำวันนั้นย่อมต้องมีการปนเปื้อนของสารฟอร์มาลด๊ไฮด์อยุ่โดยรอบ พ่อค้าแม่ค้าที่ไม่มีความรับผิดชอบมักจะนำสารฟอร์มาลดีไฮด์นี้มาใช้ในการแช่ผัก เนื้อสัตว์ เพื่อให้มีความสดและคงสภาพอยู่ได้ในระยะเวลาที่ยาวนานกว่าปรกติ
ด้วยเหตุนี้จึงทำให้กระทรวงสาธารณสุขออกประกาศห้ามให้สารฟอร์มาลดีไฮด์ในอาหารใครฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท
และนอกจากนี้ยังมีการใช้สารฟอร์มาลดีไฮด์เพื่อช่วยให้ผ้านั้นรีดง่ายแต่ยับยาก โดยตรงนี้พวกเราคงจะคุ้นๆหูกันดีกับเหล่าบรรดาน้ำยารีดผ้าทั้งหลายที่โฆษณาอยู่กันในปัจจุบัน
พิมพ์สกรีน
สารฟอร์มาลดีไฮด์ Formaldehyde จะเป็นสารละลายใน ไม่มีสี แต่มีกลิ่นที่เฉพาะตัวเป็นอย่างมาก สามารถรวมตัวกับน้ำและแอลกอฮอล์ แต่ไม่สามารถใช้ร่มกับ ด่างทับทิม ไอโอดีน และไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์
ร่างกายของคนเรานั้นสามารถที่จะกำจัดสารฟอณมาลดีไฮด์ได้ถ้าร่างกายนั้นรับสารมาในปริมาญที่ต่ำ แต่หากร่างกายรับสารมาเิกนปริมาณที่ร่างกายจะรับได้นั้นหรือในปริมาณที่เข้มข้นสูง สารนั้นจะไปทำลายเซลล์ในร่างกายทำให้เซลล์นั้นตายได้ และมีผลกระทบไปทั่วร่างกาย
มีผลต่อทางเดินหายใจ  หากได้รับในรูปของไอระเหย แม้จะได้รับในปริมาณที่ต่ำแต่หากสูดดมเข้าไปจะทำให้เคืองตา และหลอดลมบวมขชึ้นได้ จะแสบจมูก ไอ เจ็บคอ ปอดอักเสบ ถ้าเป็นมากถึงอาจจะถึงขั้นตาบอด เกิดอาการจุกแน่นหายใจไม่ออกและเสียชีวิต หากเป็นการรับไอระเหยในปริมาณต่ำแต่นาน อาจทำให้การหายใจนั้นติดขัด การรักษาพยาบาลเบื้องต้น
นำผู้ป่วยมาสูดอากศบริสุทธิ์และให้สูดไอระเหจากน้ำที่ผสมแอมโมเนีย ถ้ารุนแรงต้องช่วยผายปอดและปั๊มหัวใจและนำส่งโรงพยาบาลอย่างเร็วที่สุด หากระคายเคื่องตา ให้รีบล้างตาให้น้ำสะอาดไหลผ่านอย่างน้อย 15-20 นาที และนำส่งแพทย์
มีผลต่อทางเดินอาหาร หากเกิดไปรับประทานอาหารที่มีสารฟอร์มาลดีไฮด์ปนเปื้อนอยู่ จะทำให้เกิดอาการปวดศีรษะรุนแรง หัวใจเต้นเร็ว เกิดอาการแน่นหน้าอก ปากคอแห้ง ท้องเสีย ปวดท้องรุนแรง กระเพาะอาหารอักเสบ การได้รับทางการบริโภคนั้นอาจจะเกิดอาการอย่างฉับพลันได้  การรักษาพยาบาลเบื้องต้น
ถ้าผู้ป่วยดื่มน้ำหรือนมเข้าไปมากๆ บ้วนปาก ล้างปากด้วยน้ำสะอาด รีบนำส่งแพทย์ให้เร็วที่สุด

มีผลตอผิวหนัง จากการสัมผัสจะมีอากรระคายเคืองต่อผิวหนัง เป็นผื่นคันเหมือนลมพิษ จนถึงขั้นผิวหนังเปลี่ยนเป็นสีขาว การรักษาพยาบาลเบื้องต้น
ให้น้ำสะอาดรินผ่านในปริมาณมาก ใช้น้ำผสมแอมโมเนีย 5% ถ้าเปื้อนเสื้อให้ถอดออกแล้วชำระร่างกายด้วยสบู่อ่อนและน้ำสะอาด ส่วนเสื้อผ้าต้องนำไปซัก่อน อาการไม่ดีขึ้นรีบนำตัวส่งแพทย์ทันที
ส่วนในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับโรง พิมพ์สกรีนพลาสติก นั้นคงหลีกหนีไม่พ้นเกี่ยวกับสีที่มีส่วนของสารฟอร์มาลดีไฮด์ วิธีการหลีกเลี่ยงนั้นก็คือเราต้องรู้จักที่จะใช้สีอย่างปลอดภัย มีการตรวจเช็คสภาพสีและสภาพแวดล้อมของบริเวณที่ต้องใช้สีที่มีสารนี้ประกอบอยู่ให้ถ่ายเทได้สะดวก และที่ดีที่สุดนั้นก็คือการใช้สี Non Toxic นั้นเองครับ
เราต้องช่วยกันคนละไม้คนละมือในการดูแลรักษาตัวเรา คนรอบข้าง และ โลกให้พ้นจากอันตรายที่มากจากสารพิษที่มีปริมาณที่มากเกินไป



8.08.2555

สารปรอท!!อันตรายที่ควรห่างจากงานพิมพ์


หลังจากที่เราได้พูดคุยกันในเรื่องของสี Non Toxic ไปในคราวที่แล้วและได้พูดคุยกันต่อเนื่องไปจนถึงสารพิษที่ในทั่วๆไป และอันตรายของสารพิษอย่าง ตะกั่ว ที่ผมได้หยิบยกนำมาพูดเป็นตัวแรก แต่ขอเน้นย้ำว่า ในสี Non Toxic นั้นปราศจากสารพิษเหล่านี้อย่างสิ้นเชิง เพราะสี Non Toxic นั้นสามารถใช้ได้ในผลิตภัณฑ์ของเด็กและในบรรจุภัณฑ์ต่างๆ ความรับผิดชอบเหล่านี้เป็นเหมือนสิ่งที่บ่งบอกให้รู้ถึงความรับผิดชอบต่อส่วนรวมที่เหล่าผู้ผลิตทั้งหลายต้องไตร่ตรองให้ดี แม้ว่าการลงทุนอาจจะต้องเพิ่มขึ้นอีหสักหน่อย แต่ความปลอดภัยต่อผู้ใช้สินค้านั้นแน่นอ เราเหล่าผู้ผลิตก็ควรที่จะหันมาใส่ใจและดูแล

ในวันนี้ผมจะนำสารปรอทมาพูดคุยกันครับ หลายท่านคงจะคุ้นเคยกับคำว่าปรอทดีอยู่แล้ว เพราะเจ้าปรอทนี้นั้นอยู่ใกล้ตัวเราเป็นที่สุดเวลาเจ็บป่วย นั้นก็คือ “ปรอทวัดไข้” นั้นเองครับ

พิมพ์สกรีนพลาสติก

 หน้าตาแบบนี้คุ้นๆกันใช่หรือไม่?


คนเราทุกคนนั้นอยู่ใกล้อันตรายสารปรอทกันเป็นอย่างมาก ซึ่งสารปรอทนี้นั้นสามารถพบได้ใน ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซค์ ในควันบุหรี่ เชื้อราทั้งหลาย และสารปรอทที่ใกล้ตัวเรามากที่สุดนั้นมักจะพบปะปนอยู่ในอาหาร โดยเฉพาะในเนื้อปลาตัวใหญ่ อาทิ ปลาทูน่า ปลาฉลาม ปลาพวกนี้มีอายุที่ยาวนาน และมักจะกินปลาเล็กเป็นอาหาร โอกาสที่จะมีสารปรอทปะปนอยู่นั้นก็มีโอกาสเป็นอย่างมาก พิมพ์แพด


พิษจากสารปรอทนั้นก็เหมือนกับสารตะกั่ว นั้นก็คือจะมีการสะสมเข้าไปอยู่ในร่างกายเรื่อยๆจนถึงจุดที่สูงสุดก็จะแสดงอาการออกมา หรืออาจจะเป็นการรับสารพิษเหล่านี้ในปริมาณมากในครั้งเดียวก็อาจจะเกิดอาการเฉียบพลัน ซึ่งนั้นก็ขึ้นอยู่กับแต่บุคคลว่าจะเกิดอาการเช่นไร?

สีสำหรับงานพิมพ์สกรีนพลาสติกและงานพิมพ์อื่นไม่ควรมีสารนี้ปะปนอยู่ครับ

พิมพ์แพด
สารปรอท :  สารปรอทนั้นเป็นโลหะหนักสามารถขุดพบได้จากหินในเหมือง โดยนำหินนั้นทำให้ร้อนด้วยอุณหภูมิ 357 องศาเซลเซียส ปรอทนั้นถูกใช้ในอุตสาหกรรมหลายประเภท ไม่ว่จะเป็น การทำเครื่องวัดความดันเครื่องวัดอุณหภูมิ ในอุตสาหกรรมการแพทย์ การย้อมสี อุตสาหกรรมสีต่างๆ อุตสาหกรรมพลาสติก และการผลิตเยื่อกระดาษ อุปกรณืถ่ายรูป อุปกรณ์ไฟฟ้า สารฆ่าแมลงต่าง และในวงการเภสัชภัณฑ์ด้วย
อันตรายจากสารปรอท มี 2 แบบคือ แบบเรื้อรังและแบบเฉียบพลัน โรคนีมีชื่อว่า Minamata disease
1. เรื้อรัง :  การสะสมสารปรอทเข้าสู่ร่างกายที่ละน้อย อาการคือ ปากจะเป็นแผลอักเสบเรื้อรังเป็นเวลานานและมีเส้นที่เป็นสีออกน้ำเงินที่ขอบเหงือก เหงือกนั้นจะบวมและเลือดออกได้ง่ายควบคูไปกับมีการฟันโยก มือสั่น น้ำลายออกมาก การรับรู้รสชาตินั้นค่อยๆเปลี่ยนไป มีอาการเจ็บหน้าอก มีไข้และหายใจไม่ออกจนกระทั่งเสียชีวิต
2.แบบเฉียบพลัน : การรับรู้รสนั้นเปลี่ยนไป  ปัสสาวะน้อยลง น้ำลายออกมากว่าปรกตอเป็นอย่างมาก มีแผลเกิดขึ้นในช่องปาก ความดันต่ำ ในลำคอเกิดอาการบวม หายใจลำบาก อาเจียน ปวดท้องอย่างรุนแรง ถ่ายเหลวและมีเลือดปะปนมาในอุจจาระ กระวนกระวายอาจถึงขั้นคลุ้มคลั่งและเสียชีวิต
โรคมินามาตะ Minamata disease นี้มาจากการเกิดการแพร่ระบาดของการได้รับสารปรอทมากจนทำให้เกิดโรคที่ทำให้เกิดโศกนาฏกรรมที่ประเทศญี่ปุ่นในครั้งอดีตเมื่อปี 1959  ที่หมู่บ้านเล็กทางตอนใต้ของญี่ปุ่น หมู่บ้านแห่งนี้เป็นที่ตั้งของโรงงานผลิตปุ๋ยเคมี  คนส่วนใหญ่ในหมู่บ้านทำงานที่โรงงานแห่งนี้ จนกระทั่งครั้งหนึ่งมีแพทย์ได้ตรวจพบอาการของผู่ป่วยที่เข้ามารับการรักษา มีอาการ เดินเซ ไม่สามารถยืนได้ด้วยตัวเอง มือสั่นแขนขาชา หูตึงพูดไม่ชัดและการมองเห็นนั้นแคบลง มือสั่นและในบางคนนั้นมีอาการคลุ้มคลั่งแสดงออกมา กล้ามเนื้อในร่างกายทำงานไม่ปรกติ และบางรายแขนขาเกิดอาการบิดเบี้ยว และสุดท้ายก็เสียชีวิต ซึ่งในตอนนั้นแพทย์ไม่สามารถสรุปได้ว่าเกิดจากอะไร จนกระทั่งได้ตรวจพบว่าปลาที่อาศัยในทะเล รวมไปถึง นกนั้นมีอาการแปลกไป ปลาว่ายน้ำโดยหงายท้องขึ้นและช้าลง นกก็บินแล้วเกิดอาการบินแล้วหัวตกลงทะเล แล้วพอทีมแพทย์นำเนื้อเยื่อของทั้งปลาและนกที่เกิดอาการดังกล่าวมาตรวจก็พบว่ามีจุดสังเกตที่เหมือนกันกับคนที่เสียชีวิตไป แพทย์จึงสรุปว่า โรคนี้เกิดจากสารปรอทอินทรีย์ที่โรงงานนั้นปล่อยลงสู่ทะเลนั้นเอง เรื่องนี้กลายเป็นโศกนาฏกรรมที่ทำให้ทุกคนหันมาเอาใจใส่การควบคุมสารปรอท และญี่ปุ่นก็มีมาตราการในการกำจัดและป้องกันรวมถึงความคุมสารพิษนี้มาจนถึงปัจจุบัน
           
การพิมพ์สกรีน
เครดิตภาพจาก (cpe.kmutt.ac.th)
การป้องกันนั้นทำได้ไม่ยากแต่เราควรที่จะใส่ใจกันเป็นอย่างมาก เช่น
ใช้สารอื่นทดแทนการใช้สารปรอทเช่น สารแอมโมเนียของเงินแทนสารประกอบของปรอท
เมื่อพบเห็นการรั่วไหลของสารปรอทให้หาภาชนะใส่น้ำมารองไว้เพื่อป้องกันการระเหยของปรอท
สวมถุงมือและเสื้อคลุมเมื่อต้องสัมผัสสารปรอท
ในพื้นที่ที่ต้องมีการใช้สารปรอทต้องมีการจัดการระบายอากาศให้ดีและต้องมีการกักเก็บไม่ให้ฟุ้งกระจายด้วย
การจัดเก็บสารปรอทต้องเก็บอย่างถูกต้องและมิดชิดปลอดภัยที่สุด
“ในส่วนของผู้ผลิตงาน พิมพ์แพด อย่างผม สิ่งที่ผมเลือกทำในการหลีกเลี่ยงสารปรอทคือการใช้สี Non Toxic ครับ”
Non Toxic

8.06.2555

สี Non Toxic กับความเอาใจใส่ของโรงพิมพ์แพด

 

บทความที่ผมกำลังจะเขียนนี้ต้องบอกได้เลยว่าเป็นบทความที่ทำให้ผมรู้สึกว่า อย่างน้อยในองค์กรโรงพิมพ์ของผมแม้ว่าจะไม่ได้ใหญ่โตมากนัก แต่ตรงจุดนี้เป็นปัจจัยหลักที่ผมตั้งไว้ว่า งานพิมพ์ ทุกชิ้นที่เป็นผลิตภัณฑ์ของเด็กและงานบรรจุภัณฑ์ทั้งหมด ผมจะใช้สี Non Toxic เท่านั้นแม้ว่าลูกค้าจะไม่ได้ประสงค์ที่จะต้องการสีประเภทนี้ แต่ผมคิดว่าตรงจุดนี่เป็นความรับผิดของผู้พิมพ์อย่างผมที่ต้องเอาใจใส่ความปลอดภัยของผู้ใช้ผลิตภัณฑ์

อย่างที่เราทราบกันดีว่าโลกของเราใบนี้ต้องการการดูแลจากพวกเราที่อาศัยอยู่รวมกัน

สี Non Toxic นี้เป็นสีได้รับการรับรองว่า จะไม่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภคหรือผู้ใช้ ไม่ว่าจะเป็นการสัมผัสหรือการใช้ผลิตภัณพ์ที่พิมพ์ด้วยสี Non Toxic นี้เป็นบรรจุภัณฑ์ เช่น ขวดนมเด็กและผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก ขวดหรือกระปุกเครื่องสำอางค์ เป็นต้น เพราะสี Non Toxic นี้ เป็นสีที่ปลอดจากสารพิษ ปลอดภัยปราศจากสารตะกั่ว ปรอท โลหะหนัก สารฟอร์มัลดีไฮด์ ซึ่งสารดังกล่าวนี้เป็นสารที่จะก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ใช้เป็นอย่างมาก

พิมพ์สกรีน

สารตะกั่ว( LEAD) เป็นโลหะที่มักถูกนำไปใช้ในผลิตสินค้าหลากหลายชนิดที่คนเราใช้ประจำวัน ส่วนมากจะเป็นจำพวก สีต่างๆเช่น สีทาบ้าน สีเพื่อ การพิมพ์สกรีน ต่างๆ สีป้องกันสนิม แบตเตอรี่รถยนต์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า ฯลฯ สินค้าจำพวกเหล่านี้มักจะมีสารตะกั่วเจือปนอยู่ และจะไปสะสมในร่างกายของผู้บริโภคจนเมื่อมีการสะสมจนได้ขนาดของตัวสารแล้ว ก็จะแสดงอาการออกมา ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรง ในผู้ใหญ่หากมีการพบสารตะกั่วที่มากเกินไป จะทำให้สมองนั้นทำงานบกพร่องและปัญญาจะเสื่อมถอยลงไป แต่ถ้าเกิดพบในเด็ก จะทำให้สมองไม่รับการพัฒนา ร่างกายไม่เจริญเติบโต การได้ยินจะบกพร่องตามมาด้วยพิมพ์แพด

การเกิดอาการนั้นจะมีอยู่ 2 อย่างคือ แบบเรื้อรังกับเฉียบพลัน

เรื้อรัง คือ

จะมีผลกระทบต่อระบบทางเดินอาหาร ทำให้เบื่ออาหาร  เหม็นเฝื่อนในลำคอ ท้องผูก และเป็นตะคริวที่หน้าท้องได้

จะมีผลกระทบต่อระบบประสาท ทำให้เป็นอัมพาต ข้อมือตก ไม่มีแรง เป็นเยื่อหุ้มสมองอักเสบ อาการแบบนี้มักจะพบในเด็กเสียส่วนใหญ่ เด็กจะหมดสตินาน 2-3 ชั่วโมง บางคนอาจเสียชีวิตถ้ารอดก็อาจจะมีอาการทางประสาทตลอดชีวิต

เฉียบพลัน คือ

จะรู้สึกฝืดคอ มีกลิ่นโลหะที่ปาก กระหายน้ำมาก ปวดแสบหน้า คลื่นไส้ อาเจียน อุจจาระมีเลือดหรือมีสีดำ อาจจะมีอาการช็อค กล้ามเนื้อกระตุก เป็นตะคริง ส่วนมากจะเป็นที่ขาทั้งสองข้าง ถ้ามีอาการที่ระบบประสาทส่วนกลาง จะทำให้ ปวดศีรษะ นอนไม่หลับ เกิดอาการชา ซึมเศร้า อาการหนักเลยคือเสียชีวิต อาการอื่นที่มักจะพบเห็นคือ มีภาวะไตเสื่อม ปัสสาวะน้อยและมีเมือกปะปนอยู่ในปัสสาวะ อาจเสียชีวิตได้ใน 2-3 วัน

ตะกั่วสามารถเข้าสู่ร่างกายได้ 3 ทาง คือ ทางปาก ทางจมูก ทางผิวหนัง

ทางปาก โดยการรับประทานอาหารที่มีสารตะกั่วเจือปนอยู่

ทางจมูก โดยการสูดดมเอาเอาควันของสารตะกั่วเข้าไป เป็นไอระเหยเข้าสู่ปอด

ทางสัมผัส โดยไปสัมผัสสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีสารตะกั่วเจือปนอยู่จะเข้าสู่ผิวหนังและซึมผ่านเข้าสู่ระบบไหลเวียนเลือดของร่างกาย

นี่ก็เป็นความรู้คราวๆของสารพิษที่เกิดจากตะกั่ว เท่าที่ได้อ่านคุณคงรู้ว่าพิษร้ายจากสารตะกั่วนั้นร้ายแรงขนาดไหน การป้องกันตัวเราและเด็กน้อยจากสารตะกั่วเป็นสิ่งที่เรามองข้ามไม่ได้ เพราะถ้าทุกคนปล่อยปะละเลย อาจจะก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิต

สำหรับผมนั้นสิ่งที่ทำได้คือ ผลิตภัณฑ์งาน พิมพ์แพด ของผมทุกชิ้นต้องใช้สี Non Toxic เท่านั้น เพราะเราใส่ใจในคุณภาพและความปลอดภัยเป็นสำคัญ

คราวหน้าเราจะมาพูดคุยกันกับสารปรอทอีกหนึ่งสารพิษที่พวกเราควรหลีกเลี่ยง แล้วพบกันครับ

8.04.2555

สีงานพิมพ์สกรีนที่ได้จากธรรมชาติมีสีอะไรบ้าง

 

หลังจากที่ผมได้นำสี “ครั่ง” มาเล่าให้ทุกคนได้ฟังแล้ว ถ้าจับใจความได้ ครั่งจะให้สีแดงและมีประโยชน์เป็นอย่างมากกับหลากหลายอุตสาหกรรมในประเทสของเราแต่กับอีกหลากหลายชาติด้วย และครั่งยังเป็นผลผลิตทางธรรมชาติที่สร้างรายได้แก่ชาวชนบทของประเทศเราเป็นอย่างมาก

วันนี้ผมขอนำเรื่องที่ต่อเนื่องกับเรื่องของครั่งมาเล่าสู่กันฟังกับเรื่องของสีที่คนเราได้จากธรรมชาติ และสีที่ได้จากธรรมชาติสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับงาน พิมพ์สกรีน ได้หรือไม่

โลกเราทุกวันนี้ต่างพึ่งพาเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่างๆจนบางทีเราลืมไปว่า คนโบราณที่พวกเค้าไม่มีเทคโนโลยีแบบน้ พวกเขาสามารถสร้างอารยธรรมหริอผลงานต่างๆที่เรามีโอกาสได้เห็นจนทุกวันนีได้อย่างไร นี่แหละคือจุดที่เป็นสิ่งมหัศจรรย์ในใจผมอยู่ตลอกเวลา คนสมัยก่อนมีลิปติกหรือไม่ และวสาวๆสมัยก่อนใช้อะไรทาปาก? บ้านเรือนสมัยก่อนมีสีหรือทามีหรือไม่แล้วใช้สีอะไรทา? คนสมัยก่อนใส่เสื้อผ้าที่มีสีสันหรือไม่แล้วเอาสีอะไรย้อม? คนสมัยก่อนเค้าเอาสีมาจากไหนอะไรยังไง? ผมคิดว่าคงไม่ใช่แค่แค่มคนเดียวแน่นอนที่สงสัยแบบนี้ ต้องมีคนที่สงสัยอย่างผมอย่างนั้นเราไปหาคำตอบกันดีกว่าครับ

หลายๆคนอาจจะมีความรู้เรื่องนี้อยู่บ้างแต่อาจจะรู้ได้ไม่ทุกสีวันนีผมได้รวบรวมสีธรรมชาติต่างๆมารวมไว้ที่นี่ครับ

พิมพ์สกรีน

สีเหลือง แก่นขนุน, ขมิ้นชัน, แก่นเข, รากสะกือ,ดอกโสน,ฟักทอง,ดอกคำฝอย,ลูกตาลยี,ดอกกรรณิการ์ ,ลูกพุด
สีแดง ครั่ง,กระเจี๊ยบ,มะเขือเทศสุก,ถั่วแดง,มะละกอ,ฝางและพริกแดง
สีชมพู ต้นมหากาฬ ,ต้นฝาง
สีเขียว ใบเตย,ใบย่านาง,พริกเขียว,ใบคะน้า,เปลือกต้นมะริดไม้, ใบหูกวาง, เปลือกกระหูด,เปลือกสมอ หรือ ใบสมอ ,ใบบวบ
สีเขียวอ่อน เปลือกมะพร้าวอ่อน,ใบมะม่วง,ใบยูคา
สีเขียวแก่ ใบขี้เหล็ก
สีน้ำตาล น้ำตาลเคี่ยวไหม้, เปลือกไม้ประดู่ ,เนื้อในเมล็ดโกโก้,ตะแบก,เปลือกหมาก
สีน้ำตาลไหม้ ใบหูกวาง
สีน้ำตาลแก่-กากี เปลือกมะพร้าวแก่
สีน้ำเงิน อัญชัญ,ต้นคราม
สีม่วง ดอกอัญชันผสมมะนาว ,ข้าวเหนียวดำ ,มันเลือดนก ,ถั่วดำ ,มังคุด
สีม่วงอ่อน ลูกหว้า
สีน้ำเงิน ดอกอัญชัน ,ต้นคราม
สีดำ ลูกกระจาย ,ลูกมะเกลือ ,ถ่านกาบมะพร้าว ,ถั่วดำ ,ดอกดิน
สีน้ำตาลแก่-ดำ เปลือกกระโดน ,เปลือกนุ่น
สีแสด เมล็ดของผลคำแสด
สีแดงเลือดนก ลูกตะตี
สีกากีออกเขียว แก่นขนุน ,เปลือกเอกา
สีฟ้า ใบคราม
สีเหลืองไพร เปลือกกระท้อน
สีตองอ่อน ใบตอง ,มะพูดหรือรากแถลง
สีเปลือกไม้ ต้นลกฟ้า ,หนามกราย, ไม้โกงกาง, เปลือกตะบูน
สีเทาอ่อน-แก่  โคลน

สีต่างๆเหล่านี้เป็นสีที่ได้จากธรรมชาติทั้งหมด ซึ่งในปัจจุบันก็ยังมีใช้ในการย้อมผ้า ทำสีผสมอาหรต่าง และในบางครั้งก็มีการนำไปสกัดเพื่อใช้ใน งานพิมพ์ จำพวกสกรีนเสื้อผ้า พิมพ์ลายผ้าเป็นต้น

ข้อดีของการใช้สีที่สกัดจากธรรมชาติคือจะเกิดความปลอดภัยกับผู้ใช้และผู้ผลิตด้วย โดยเฉพาะอุตสาหกรรมอาหารที่ใช้สีที่สกัดจากธรรมชาติผสมกับอาหาร แน่นอนว่าผู้บริโภคจะปลอดภัยเมื่อรับประทานเข้าไป

ส่วนในด้านงาน พิมพ์แพด สีที่ใช้ที่สกัดจากธรรมชาติโดยตรงนั้นอาจจะยังไม่มีในตอนนี้ แต่สีที่ปลอดภัยสำหรีบผู้บริโภคนั้นมี ก็คือ สีประเภท Non-Toxic
 คือสีที่ปราศจากสารพิษที่จะก่อให้เกิดการตกค้างและเป็นอันตรายต่อผู้ใช้ ด้วยส่วนฬหญ่วี Non Toxic จะใช้ในผลิตภัณฑ์สำหรีบเด็ก ผลิตภัณฑ์ด้สนความงาม และของใช้ที่เป็นบรรจุภัณฑ์ที่เอาไว้ อุปโภคบริโภค ซึ่งในโอกาสหน้าผมจะนำความรู้เรื่องสี Non Toxic มาเล่าสู่กันฟังที่นี่นะครับ

พิมพ์สกรีน

7.31.2555

“ครั่ง” สีจากแมลงที่มีประโยชน์ต่องานพิมพ์



หลังจากผมได้ทิ้งท้ายกับเรื่องราวความน่าสนใจของหยกตราประทับที่เมื่อสมัยก่อนนิยมใช้กันเพื่อแสดงตัวตน ใช้เพื่องานราชการสำคัญและในบางทีก็เพื่อเป็นการแสดงถึงฐานะทางสังคมในสมัยก่อน และผมก็ได้ทิ้งท้ายไว้กับเรื่องราวของสีที่ใช้กันในสมัยก่อน อย่างที่เรารู้ดีกันอยู่ว่าในสมัยก่อนคงไม่มีเทคโนโลยีมากมายอะไรนัก โดยส่วนใหญ่สิ่งที่คนสมัยก่อนนำมาใช้ก็จะเป็นการประยุกต์อะไรต่อมิอะไรจากธรรมชาติมาทั้งนั้น ซึ่งตรงนี้ผมเป็นหนึ่งคนที่ชื่นชอบและตื่นตาตื่นใจและบางครั้งก็มีข้อสงสัยว่า คนในยุดโบราณเค้าได้คิดที่จะประยุกต์คิดค้นอะไรแบบนี้ได้อย่างไร นี้ต้องบอกว่าเป็นเรื่องที่ผมสนใจเป็นอย่างมากเลยทีเดียว  ก่อนที่เราจะไปว่ากันในเรื่องที่ผมได้ตั้งหัวข้อไว้ว่า “ครั่ง” สีจากแมลงที่มีประโยชน์ต่อ งานพิมพ์ ผมต้องขอแนะนำก่อนว่าเจ้าตัว “ครั่ง” ที่ผมพูดถึงนี้มันมีลักษณะเช่นไร?
พิมพ์สกรีน

  ตัวนี้คือตัว “ครั่ง” ที่ผมกำลังจะพูดถึง ตัวครั่งตัวนี้เป็นพระเอกของเรื่องของเราในวันนี้ แมลงครั่งตัวนี้หล่ะที่ผลิตสีให้กับคนโบราณได้ใช้กัน สีที่แมลงครั่งผลิตมาได้คือสีแดง  และผลผลิตของครั่งนี้ได้ให้ประโยชน์กับมนุษย์มาแล้ว ประมาณ 4,000 ปี แมลงครั่งจะไปเกาะอยู่บนต้นไม้และดูดเอาน้ำหล่อเลี้ยงของต้นไม้ ซึ่งถ้ามองแล้วครั่งก็คือศัตรูพืชชนิดหนึ่ง แต่ศัตรูพืชตัวนี้ให้ประโยชน์มากมายหลายประการ มนุษย์เราเลยทำการเลี้ยงอย่างเป็นจริงเป็นจัง แมลงครั่งชอบเกาะอยู่บนต้นไม้หลายหลายชนิด เช่น ต้นตะกร้อ ทองกวาว สะแก จามจุรี เป็นต้น ผลผลิตจากครั่งเป็นประโยชน์ต่ออุตสหกรรมหลายแขนง เช่น
พิมพ์แพด
  ผลผลิตจากยางครั่งสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างมากมาย เช่นในคนอินเดียสมัยก่อนใช้สีแดงจากครั่งเพื่อการแพทย์ในการรักษาโรคโลหิตจาง เพราะเชื่อว่าสามารถเพิ่มโลหิตได้ ส่วนในจีนสมัยก่อนใช้สีแดงจากครั่งในการย้อมผ้าไหมและหนังสัตว์ ซึ่งตรงนี้ปรากฎหลักฐานว่ามีการใช้ครั่งใน การพิมพ์ ด้วยในสมัยก่อนมีการสกัดเอาสีที่ได้จากครั่งมาเป็นสีหมึกในการพิมพ์ ซึ่งในสมัยนี้ครั่งที่ได้มีการนำไปใช้เป็นสีกันน้ำ และมีการนำยางครั่งไปทำเป็นเชลแลค ซึ่งในปัจจุบันครั่งมีประโยชน์ในอุตสาหกรรมดังนี้
อุตสาหกรรมยา : ได้มีการนำเชลแลคมาเคลือบยาเม็ดกันชื้นและเป็นตัวยาที่ทำปฏิกริยากับกระเพาะนั้นเอง
อุตสาหกรรมยาง  : ทำรองเท้า ที่เคลือบผิวพื้นไม้ เบาะอะไหล่รถยนต์ นอกจากสิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับเชลแลคที่ได้
                        จากครั่ง คือได้นำเอาไปเคลือบผิวผลไม้กันเหี่ยว และมาเคลือบลูกกวาด ผลิตน้ำยาฟิล์มถ่ายรูป
อุตสาหกรรมหมึกพิมพ์ : นำเอาเชลแลคมาเพื่อทำหมึกพิมพ์เขียนชนิดกันน้ำ ตอนหลังมีการผลิตหมึก พิมพ์
                                แห้งเร็วกันน้ำได้ ใช้ทำการพิมพ์ด้วยเครื่องจักรความเร็วสูง
นี่เป็นส่วนนึงของอุตสาหกรรมที่ใช้ครั่งเป็นส่วนประกอบ ซึ่งประเทศไทยองเราเป็นหนึ่งในประเทศที่ส่งออกครั่งมี่ใหญ่ติด 1 ใน 3 ของโลกเลยที่เดียว 3 ประเทศที่ว่าก็คือ ไทย จีน อินเดีย
ประเทศไทยเหมาะกับการปลูกครั่งเป็นอย่างมากเพราะมีสภาพที่เหมาะสม ในประเทศไทยสามารถเก็บเกี่ยวครั่งได้ 1-2 ครั้งต่อปี ซึ่งในการส่งออกไปขายต่างประเทศนิยมที่จะทำเป็นครั่งเม็ด
ซึ่งตรงนี้ก็ถือได้ว่าเป็นการส่งเสริมอุตสาหกรรมในชนบทเป็นอย่างมาก เพราะชาวบ้านได้ใช้เวลาว่างในการปลูกข้าวในการปลูกครั่งและต้นไม้ที่ใช้ในการปลูกก็มากมายดังเช่นที่ผมได้กล่าวไว้ข้างต้น
Shellac

Shellac


เห็นหรือเปลาครับว่าเพียงแค่คุณสงสัยกับเรื่งเพียงเรื่งเดียวก็สามารถทำให้คุณนั้นมีความรู้เพิ่มเติมได้อีกหลายเรื่อง แล้วเรื่องราวเหล่าั้นก็ล้วนแล้วแต่มีประโยชน้เอาไว้ประดับความรู้ของเรา

เรื่องราวที่เกี่ยวกับเรื่องของการพิมพ์สกรีน พิมพ์แพด งานพิมพ์ชนิดต่างๆ ยังมีให้ได้ศึกษาค้นคว้าอีกเยอะ

ติดตามกันได้ที่นะครับ


( ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพที่ใช้ในการประกอบบทความจาก Google, th.wikipedia.org,สำนักงานพัฒนาคุณภาพสินค้าการเกษตร )

7.28.2555

อยากจะคุยเรื่องงานพิมพ์

 

  ก่อนที่จะเขียนอะไรเป็นเรื่องเป็นราว ต้องขอบอกก่อนเลยว่ายินดีที่ได้รู้จักกับทุกท่านที่ได้เข้ามาเยื่อมเยือนบล็อกของเรา และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเนื้อหาของบล็อกนี้จะเป็นทั้งคลังความรู้และความบันเทิงให้กับทุกท่านได้บ้าง ที่บอกว่าบันเทิงนั้นก็เพราะว่า การที่เราจะบรรยายหรืออธิบายในสิ่งที่คนอื่นอาจจะไม่เข้าใจ การปรุงแต่งให้เรื่องราวนั้นสอดแทรกความบันเทิงและปรับปรุงให้เข้าใจง่าย มันจะเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะทำให้เกิดความเข้าใจในเรื่องนั้นๆได้มากขึ้น  เรื่องของ งานพิมพ์ ต่างๆต้องขอบอกได้เลยว่าเป็นเรื่องที่ถ้าจะให้เล่าตั้งแต่แรกเราต้องย้อนเวลาหาอดีตไป เกือบ 3,000 ปีเลยก็ว่าได้ เพราะวิวัฒาการของการพิมพ์นั้นมีมาเนิ่นนานมาก แต่วิธีการและอุปกรณ์ที่ใช้นั้นแตกต่างกันไปตามแต่ละยุุคสมัย  มาถึงตรงนี้แล้วหลายๆคนบอกว่า “ ออกดีกว่า! เครียด ”
อย่าเพิ่งนะอยู่กันก่อน เพราะเราบอกแล้วว่าเราจะรวมความบันเทิงไว้ให้ได้อ่านด้วย อ่านไปเรื่อยๆ ได้ความรู้ไปด้วย
พิมพ์ลาย
    คุณรู้หรือเปล่าว่าทำไมผมถึงอยากที่จะเริ่มต้นเขียนบล็อกนี้ ?
    ไม่ต้องคาดเดากันให้เหนื่อย..เพราะคำตอบมันคือ ผมเป็นหนึ่งคนที่อยู่ใน   สายงานพิมพ์นี้ แต่คุณรู้หรือเปล่าว่าสายงานนี้เป็นสายงานที่ถ้าแตกกิ่งก้านสาขาออกไปเหมือนต้นไม้ต้องบอกได้เลยว่าต้นไม้นี้เป็นต้นไม้ที่ใหญ่มากๆเลยทีเดียว แต่ก่อนผมก็แค่ศึกษาเรื่องของการพิมพ์ตามประเภทที่ผมถนัด ต้องบอกได้เลยว่าถ้าเป็นสายงานด้านการ พิมพ์แพด นี้เป็นอะไรที่เข้าทางก็ว่าได้  แต่ว่า? ( ทำไมถึงมีแต่ ) เราอย่าหยุดค้นคว้าและอย่าหยุดที่จะพัฒนาตัวเอง เพราะว่าพอยิ่งเราศึกษาเราจะได้ค้นพบอะไรที่เราไม่รู้อีกเยอะ และนี้หล่ะที่เป็นต้นกำเนิดของการอยากจะเขียนเรื่องของการพิมพ์ เพราะว่าเมื่อผมได้ลองค้นคว้า คุณเชื่อหรือเปล่าว่า มันมากมายก่ายกองเลยก็ว่าได้ อะไรต่อมิอะไรเยอะแยะไปหมด แต่ทุกอย่างเป็นเรื่องที่น่านำมาเล่าเพื่อเป็นความรู้จริงๆ 
เมื่อประมาณสองเดือนที่แล้วผมได้มีโอกาสไปเกี่ยวข้องแล้วข้องแวะเกี่ยวกับ “หยก” พอดีว่ามีเพื่อนที่เขาชอบเรื่องนี้นำหยกมาให้ผมดู จริงๆแล้วส่วนตัวเป็นคนที่ไม่ค่อยนิยมที่จะใส่หยกเท่าไหร่นัก นอกเสียจากว่ามีช่วงที่ต้องเอาอะไรมาเสริมเพิ่มพลังชีวิตถึงจะได้ใส่ ซึ่งถ้านึกดีๆแล้วในชีวิตมีเพียง 2 ครั้งเท่านั้นที่ได้ใส่หยกติดตัว  เรื่องราวไม่มีอะไรมากถ้าเพื่อนผมคนนี้ไม่พูดคำนี้ขึ้นมา
“ ถ้ารวยจะเอาหยกไปทำเป็นตราประทับ ”
ในหัวของผมคิดถึงภาพของฮ่องเต้นั่งบนบังลังก์แล้วถือหยกตราประทับประจำราชวงศ์เพื่อที่จะเอาหยกนั้นจุ่มลงไปที่หมึกแล้วประทับตราหยกนั้นลงบนตราสารอะไรก็ว่ากันไป  มันเลยทำให้ผมคิดว่าจริงๆแล้ว ประเทศจีนน่าจะรู้จักการพิมพ์สกรีน มานานมากแล้วจริงๆ เท่านั้นหล่ะครับคนอยากจะรู้ไปซะทุกเรื่องอย่างผมเลยอยากจะหาข้อมูลเรื่องนี้ขึ้นมาเลยทีเดียว                                                     
imgres  
   นี่คือตราประทับหยกที่ทำให้คนอย่างผมขนลุกเลยทีเดียว
  ตราประทับหยกของจักรพรรดิ์เฉียนหลงประมูลได้
  500 ล้านเหรียญไต้หวัน  ( ข้อมูลจาก http://thai.cri.cn )

จากข้อมูลที่ผมได้อ่านมา หยกตราประทับ มีเอาไว้เพื่อเป็นการแสดงตัวตนว่าใครเป็นใครมาจากตระกูลใด แต่ว่าหยกตราประทับไม่ได้มีใช้ทั่วไป แต่จะมีไว้สำหรับคนที่มีฐานะเท่านั้น เพราะบางสมัยตราประทับก็ไม่ได้ทำมาจากหยก แต่ทำมาจากทองก็มี และการใช้หยกตราประทับนั้นก็เพื่อที่เอาไว้เพื่อที่จะประทับไว้ในตราสารที่สำคัญและแต่ละยุคสมัยก็มีวิวัฒนาการการใช้ที่แตกต่างกัน ซึ่งตัวผมเองก็แอบคิดนะว่า หยกตราประทับน่าจะเป็นรากเง้าของตรายางของพวกเราในสมัยนี้ที่เอาไว้ใช้กันอย่างทั่วไป
สมัยนี้เราก็จะใช้แท่นหมึกที่ทำมาจากสีสังเคราะห์มาเป็นสีในการพิมพ์ตรายางลงไป แต่คุณรู้หรือเปล่าว่าในสมัยนั้นพวกเขาใช้อะไรเป็นหมึกเพื่อพิมพ์ตราสารกัน?
แน่นอนเมื่อถึงท้ายแบบนี้แปลว่าต้องมาติดตามกันว่าคำตอบคืออะไร ?
ติดตามกันได้ที่นี่ แล้วคุณจะรู้ว่าเรื่องที่เกี่ยวกับงานพิมพ์มันเยอะแยะมากมายน่าค้นหาจริงๆ

7.27.2555

Repost test

 ถ้ามีคนถามว่า "คุณชอบสีอะไร" ทุกๆคนก็ต่างมีคำตอบในใจกันอยู่แล้วว่าสีอะไรที่เราโปรดปรานมากที่สุด แล้วคุยเคยถามตัวเองหรือเปล่าว่า
 "แล้วทำไมเราถึงชอบสีนั้นหล่ะ?"

 คำถามนี่ถ้าคุณคิดดีๆคุณจะรู้ว่าการที่คุณชื่นชอบสีสีนึงนั้นไม่ได้เกิดเพราะความบังเอิญ แต่มันเกิดจากความรู้สึกที่เกี่ยวโยงกันกับสีที่คุณชอบนั้น อย่างเช่นผู้หญิงบางคนชอบสีชมพูเพราะว่าสีชมพูทำให้ดูเป็นสาวอ่อนหวาน หรือผู้หญิงบางคนที่ชื่นชอบในสีดำเพราะมันทำให้ดูเซ็กซี่และน่าค้นหา ซึ่งตรงนี้อาจจะประเมินได้ในเบื้องต้นว่า การที่คนเราชอบสีใดสีนึงนั้นเป็นเพราะสีๆนั้นให้ความรู้สึกอย่างไรกับตัวเรา

ซึ่งจะเป็นเรื่องไม่แปลกเลยว่าสีสามารถเป็นตัวแทนหรือบ่งบอกความเป็นตัวตนของคนๆนั้น สิ่งๆนั้น เลยก็ว่าได้ อิทธิพลของสีไม่เพียงแต่จะเป็นตัวบ่งบอกตัวตนและความชื่นชอบของเราเท่านั้น บางครั้งสีเป็นเหมือนตัวบ่งบอกรสนิยมเลยก็ว่าได้ ในเรื่องของตรงนี้ถ้าได้ถามหรือได้พูดคุยกับนักออกแบบ,สถาปนิก,ดีไซเนอร์ คุณจะรู้สึกได้ทันทีเลยว่าเรื่องของสีนี่เป็นเรื่องใหญ่มากเลยที่เดียว บางครั้งถึงขนาดต้องปวดหัวเพียงเพราะคำๆเดียวว่า "สี"

ถ้าพูดถึงสีสามารถบ่งบอกรสนิยมต้องเรื่องนี้เลยที่คิดออก " ผิวสีน้ำผึ้ง"

คนไทยเรามักจะนิยมและชื่นชอบคนผิวขาว เพราะมีความเชื่อที่ว่า ดูดีมีฐานะ มีสง่าราศี และ แต่คนต่างชาติกลับชื่นชอบผิวสีน้ำผึ้ง เพราะมีความเชื่อว่า ชาวต่างชาติที่มีฐานะมักจะชอบไปอาบแดดเพื่อให้ผิวนั้นมีสีเป็นสีน้ำตาลหรือสีน้ำผึ้ง เห็นมั้ยครับว่าอิทธิผลของสีมันมีมากมายเลยที่เดียว ในบางครั้งสามารถชี้วัดฐานะชาติตระกูลกันได้ด้วย

ถ้าในเรื่องของการพิมพ์ ต้องบอกเลยว่าสีเป็นส่วนสำคัญอย่างมาก แล้วถ้ายิ่งเป็นงานที่ลูกค้าต้องการให้ออกแบบงานให้ด้วยแล้วละก็ ต้องบอกได้เลยครับว่า ต้องทำการบ้านกันหนักเลยที่เดียว เพราะลูกค้าต่างค้องการให้ผลิตภัณฑ์หรือผลงานของตัวเองออกมาดูสวยและมีสไตล์ในแบบที่ตัวเองต้องการ แต่ในบ้างครั้งสีที่ลูกค้าต้องการกลับกลายเป็นไม่เข้ากับงาน เกิดปัญหาแบบนี้จะต้องทำอย่างไรกันดี?

เราอาจจะแนะนำหรืออธิบายถึงข้อดีและข้อเสียของสีที่ลูกค้าต้องการ และแสดงความคิดเห็นให้ลูกค้าได้นำไปเป็นการบ้านดูกับคำถามที่ว่า
" สีของงานที่คุณเห็นมันทำให้คุณรู้สึกอย่างไร"

บ้างครั้งที่เราตัดสินใจไม่ได้การให้ลูกค้าลองถามความรู้สึกของตัวเอง นั้นอาจจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุดก็ได้ครับ จริงๆไม่ได้อยากแนะนำอะไรมากเพราะรู้ว่าทุกท่านนั้นน่าจะเป็นผู้เชี่ยวชาญในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้ากันอยู่แล้ว ก็ถือซะว่าเป็นเกร็ดเล็กๆน้อยๆที่แนะนำให้แก่กันและกันนะครับพอมาถึงตรงนี้เราคงจะพอสรุปได้อย่างคราวๆว่า สีนั้นมีผลต่อความรู้สึกของเรามากเลยที่เดียว ลองมาคิดกันเล่นๆนะครับว่า
" ถ้าวันนึงคุณรู้สึกปวดหัว แล้วถ้าคุณเงยหน้าขึ้นมาเห็นภาพ 2 ภาพทีเหมือนกันแต่สีต่างกันแบบนี้..


คุณคิดว่าภาพไหนมันจะยิ่งทำให้คุณปวดหัวเพิ่มขึ้นไปอีก??
 

Interesting Blog